TorGuard VPN
TorGuard เป็น VPN ที่มีความแตกต่างจาก VPN ส่วนใหญ่เล็กน้อย เนื่องจากได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่แชร์ไฟล์แบบ P2P นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นจากการที่มีตัวเลือกที่หลากหลายนอกเหนือจากที่มีให้ตามปกติ โดยมีตั้งแต่ IP ส่วนตัวไปจนถึงการเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้ได้ต่อบัญชี เรียนรู้เพิ่มเติม
รีวิว TorGuard: ข้อดี 7 ข้อและข้อเสีย 2 ข้อจากการใช้ TorGuard VPN
TorGuard VPN อาจเป็นชื่อแบรนด์ที่ไม่โดดเด่นเท่าชื่ออื่น ๆ ในบัญชีรายชื่อ VPN ของเรา แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดคุณค่าที่แท้จริงของมัน อย่างไรก็ตาม TorGuard เป็นหนึ่งในแบรนด์น้องใหม่และเพิ่งเข้าสู่วงการเมื่อปี 2012
แม้จะเริ่มต้นอย่างขลุกขลักเนื่องจากมีอุปสรรคเรื่องการชำระเงินกับบริษัทชำระเงินรายใหญ่อย่าง PayPal แต่ TorGuard ก็เติบโตได้อย่างรวดเร็วและในปัจจุบันได้ให้บริการลูกค้าในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3,000 แห่งในกว่า 50 ประเทศ
สารบัญ
ข้อดีของ TorGuard VPN
- ความพร้อมใช้งานและความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม
- ปรับใช้กับแพลตฟอร์มหลักได้ทั้งหมด
- เอาชนะตัวบล็อค VPN ด้วยโหมดพรางตัว
- ความเร็วที่เหมาะสม
- ราคาที่เหมาะสมและตัวเลือกการชำระเงินมากมาย
- VPN ที่สร้างขึ้นเพื่อ P2P
- การบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ข้อเสียของ TorGuard VPN
ท้ายที่สุด
เราถูกใจ TorGuard VPN ตรงไหน
1. ความพร้อมใช้งานและความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม
TorGuard เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ตั้งอยู่บนเกาะเนวิสของหมู่เกาะอินเดียตะวันตกในทะเลแคริบเบียน TorGuard มีความผสมผสานของสองปัจจัยที่ลงตัวสำหรับผู้ใช้บริการ อย่างแรก TorGuard ได้ระบุอย่างชัดเจนว่ามี นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ที่เข้มงวด
หมายเหตุ
เนื่องจากการปิดกั้น VPN ที่กำลังจะเกิดขึ้น ข้อจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นและภัยคุกคามจากภาครัฐจากการที่รัฐบาลจีนปราบปรามผู้ให้บริการ VPN ในประเทศ TorGuard VPN ได้ตัดสินใจถอดเซิร์ฟเวอร์ออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมดในปีนี้
บริษัทมีการรักษาความปลอดภัยผ่าน OpenVPN ซึ่งรองรับการเข้ารหัสหลายประเภท แต่อย่าลืมว่า เมื่อระดับการเข้ารหัสเพิ่มขึ้น ความเร็วก็มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย มีตัวเลือกให้คุณเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานของคุณเอง
ตัวเลือกการเข้ารหัส มีให้เลือกตั้งแต่ศูนย์จนถึง AES-256 บิต โดยปกติระดับการเข้ารหัสที่สูงขึ้นจะกระทบต่อความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย คุณสามารถปรับความต้องการในเรื่องของความเร็วและความปลอดภัยในเวลาต่าง ๆ ได้
1.1. เลือกปิดการใช้งานวีพีเอ็นกับแอปที่กำหนดเป็นการเฉพาะได้
TorGuard แตกต่างจากผู้ให้บริการ VPN บางรายที่มีให้เลือกปิดการใช้งานวีพีเอ็นหรือ Kill Switch แบบทั่วไป แต่ Kill Switch ของ TorGuard นั้นมีความแตกต่างกันเล็กน้อย นั่นคือ Kill Switch จะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่อยู่ในแอป ซึ่งคุณสามารถเลือกเพื่อยุติกระบวนการใดก็ได้ตามใจคุณในกรณีที่การเชื่อมต่อของ VPN ลดลง
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกให้แอปยุติ firefox.exe และ bittorrent.exe ถ้าหากการเชื่อมต่อของ VPN แย่ลงโดยที่กระบวนการอื่นทั้งหมดที่เหลือยังทำงานอยู่ นอกจากนั้น คุณยังสามารถเลือกให้แอปปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งหมดของคุณได้เมื่อ TorGuard ถูกปิดลง
1.2. มีตัวเลือกเพิ่มความปลอดภัยเป็นพิเศษ
แม้ว่าบริการ VPN ของ TorGuard จะมีโปรโตคอลการเข้ารหัสที่หลากหลายอยู่แล้ว แต่ TorGuard ยังพาคุณก้าวไปอีกขั้นถ้าหากว่าคุณต้องการความปลอดภัยที่มากขึ้น
หนึ่งในวิธีดังกล่าวคือ การตั้งค่าแอปพลิเคชันให้เชื่อมต่อผ่านทางพร็อกซี ซึ่งอาจจะเป็น SOCKS5, SSL หรือแม้แต่พร็อกซี HTTP หรือบริการอื่น ๆ ก็มีไว้ให้บริการผ่าน TorGuard
วิธีสุดท้ายที่บริษัทแนะนำคือ การใช้ประโยชน์จากเราเตอร์ VPN แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว สิ่งนี้จะหมายถึงการรับส่งข้อมูลทั้งหมดผ่านเราเตอร์จะถูกเข้ารหัส แต่คุณสามารถเลือกการป้องกันสองชั้นได้โดยเชื่อมต่อกับพร็อกซีหรือ VPN ผ่านเราเตอร์ VPN
หมายเหตุ
การใช้บริการ VPN บนเราเตอร์ของคุณจะช่วยให้คุณเอาชนะขีดจำกัดของการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันซึ่ง VPN ส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเงินเพิ่ม อย่างไรก็ตาม มันก็มีข้อเสียนั่นคือในเกือบทุกกรณี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเราเตอร์ที่ใช้งานตามบ้านทั่วไป) การทำเช่นนี้จะทำให้การรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลงเมื่อเทียบกับการที่คุณใช้แอป VPN กับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งโดยเฉพาะ เนื่องจากเราเตอร์มีความสามารถน้อยกว่าในการจัดการการเข้ารหัสข้อมูลที่จำเป็นในแบบเรียลไทม์ ทำให้การส่งข้อมูลของคุณช้าลง
2. ปรับใช้กับแพลตฟอร์มหลักได้ทั้งหมด
TorGuard มีแอปสำหรับเดสก์ท็อปและแพลตฟอร์มมือถือโดยมีทั้งบนอุปกรณ์ของ Microsoft, Apple และ Linux อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถติดตั้งลงบนเราเตอร์ของคุณได้ แม้ว่าบริษัทจะโปรโมตเราเตอร์ VPN ของ TorGuard แบบที่แฟลชไว้ล่วงหน้า แต่คุณสามารถตั้งค่าวีพีเอ็นบนเราเตอร์รุ่นใหม่ ๆ เองได้
มันอาจจะมีข้อจำกัดจากเราเตอร์ที่คุณใช้ แต่ TorGuard มี ฐานความรู้ ที่รองรับการตั้งค่าด้วยตนเองสำหรับอุปกรณ์หลายเครื่อง บริการของค่ายนี้รองรับอะไรได้มากมาย แต่ต้องเช็คในฐานความรู้ที่มีให้อีกครั้งว่ามีอะไรบ้างหากคุณสนใจ
ถ้าคุณกำลังใช้เฟิร์มแวร์เฉพาะ เช่น Tomato หรือ DD-WRT ก็ยิ่งดีใหญ่เลยเพราะบริษัทได้เตรียมเครื่องมือตั้งค่าเราเตอร์สำหรับคุณเอาไว้แล้ว
3. เอาชนะตัวบล็อค VPN ด้วยโหมดพรางตัว
แม้ว่า VPN ช่วยทำให้คุณทำกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน แต่มีหลายบริษัท (หรือแม้กระทั่งบางรัฐบาล) ที่พยายามจะเอาชนะเรื่องนี้ด้วยการบล็อกการใช้งาน VPN ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สาเหตุที่ทำได้สามารถบล็อกการใช้งานของวีพีเอ็นได้ก็เพราะว่าการรับส่งข้อมูลของ VPN มักจะมีคุณสมบัติบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ส่วนหัวที่มาพร้อมกับการเข้ารหัส SSL/TLS
TorGuard มีสิ่งที่เรียกว่า ‘โหมดพรางตัว’ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ (ฟีเจอร์นี้ใน Windows เรียกว่า ‘sTunnel’) ซึ่งจะดึงข้อมูลดังกล่าวออกและพยายามเปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลผ่านบรรดาพอร์ตปกติทั่วไปที่คนใช้กันบ่อย ๆ แทน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ TorGuard กลายเป็นที่รู้จักกันว่า สามารถเอาชนะข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ได้ดีกว่าราย อื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าลูกค้าของค่ายนี้มีโอกาสมากกว่าที่จะเข้าถึงเนื้อหาที่ปกติไม่อนุญาตให้คนนอกภูมิภาคที่กำหนดไว้เข้าถึงได้
4. ความเร็วที่เหมาะสม
ก่อนที่คุณจะอ่านเนื้อหาส่วนนี้ โปรดทราบว่า ในทางทฤษฎี ความเร็วบรอดแบนด์ของผมตอนนี้ถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 500 Mbps ซึ่งโดยทั่วไปในทางปฏิบัติ ความเร็วของผมจะอยู่ที่ 400 ถึง 450 Mbps โดยขึ้นอยู่กับเซิร์ฟเวอร์ที่ผมกำลังเชื่อมต่ออยู่
ตอนที่ผมเริ่มใช้ TorGuard ความเร็วค่อนข้างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมพบว่าความเร็วลดลงเล็กน้อย ผมสังเกตเห็นปริมาณการรับส่งข้อมูลที่หนาแน่นขึ้นของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเร็วลดลง
ก่อนที่เราจะดูผลการทดสอบ ต่อไปนี้คือการทดสอบพื้นฐานเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเร็วในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ภายในท้องถิ่นขณะที่ไม่มี VPN ใช้งานอยู่
(ดูผลลัพธ์ความเร็วพื้นฐานฉบับเต็มได้ที่นี่)
จากข้อมูลข้างต้น ตอนนี้ เรามาดูประสิทธิภาพของ TorGuard จากโลเคชั่นยอดนิยมห้าแห่งทั่วโลก
การทดสอบความเร็วของ TorGuard – เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
การทดสอบความเร็วของ TorGuard – เซิร์ฟเวอร์ในยุโรป (เยอรมนี)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
การทดสอบความเร็วของ TorGuard – เซิร์ฟเวอร์ในตะวันออกกลาง
TorGuard ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ในทวีปแอฟริกา ดังนั้น ผมจึงใช้เซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางแทนสำหรับการทดสอบนี้
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
การทดสอบความเร็วของ TorGuard – เซิร์ฟเวอร์ในเอเชีย (สิงคโปร์)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
การทดสอบความเร็วของ TorGuard – เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)
อย่างที่คุณเห็น ในบางพื้นที่ TorGuard มีผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี แต่ผลลัพธ์ก็แย่ในบางพื้นที่ สิ่งที่น่าแปลกใจคือมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป และผมก็หวังว่ามันจะเป็นอาการสะดุดชั่วคราวจนกว่าทางบริษัทจะรู้ว่าจำเป็นต้องอัปเกรดเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองอีกครั้ง
5. ราคาที่เหมาะสมและตัวเลือกการชำระเงินมากมาย
เริ่มต้นที่ 310 บาทต่อเดือนสำหรับการชำระเงินรายเดือน ถือว่า TorGuard มีราคาที่ค่อนข้างถูกเทียบกับประสิทธิภาพและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีให้ หากคุณสมัครแพ็กเกจระยะยาว คุณจะจ่ายน้อยลง ตอนนี้ข้อเสนอที่ดีที่สุดคือ การชำระเงินรายปีในราคา 1,860 บาทซึ่งอยู่ที่ประมาณ 155 บาทต่อเดือน
แม้ว่าราคานี้อาจจะไม่ได้ถูกสุด ๆ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นราคาที่สมเหตุสมผล แทนที่จะบีบให้ผู้ใช้สมัครใช้งานเป็นระยะเวลานานในราคาที่ต่ำมาก TorGuard นำเสนออะไรบางอย่างที่อยู่ตรงกลาง
ขณะที่ผมเป็นแฟนตัวยงของบริการราคาถูก แต่ก็มีโอกาสน้อยมากที่ผมจะสมัครบริการแบบสามปี
นอกจากนั้น TorGuard ยังมีข้อเสนออื่น ๆ ที่คุณสามารถเลือกได้เมื่อลงชื่อสมัครใช้งาน ไม่ว่าจะที่อยู่ IP แบบคงที่ (บางแห่งถึงกับระบุสถานที่ได้เลย) และคุณสามารถเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานวีพีเอ็นได้โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
แต่สิ่งที่ทำให้ TorGuard มีความโดดเด่นคือ ตัวเลือกการชำระเงิน ผมไม่เคยเห็นผู้ให้บริการรายไหนมีตัวเลือกการชำระเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน มันเป็นเรื่องจริงที่หลายคนเริ่มยอมรับสกุลเงินดิจิทัลและ TorGuard ก็ไม่ได้รับแค่ Bitcoin
จากที่ผมเห็น ค่ายนี้มีตัวเลือกการชำระเงินมากมาย เช่น Litecoin, Blackcoin และสกลุเงินดิจิทัลประเภทอื่น ๆ กว่า 22 รายการ นอกจากนี้ยังคงรับบัตรเครดิตตามปกติ, PayPal, Payment Wall หรือแม้แต่บัตรของขวัญ
6. VPN ที่สร้างขึ้นเพื่อ P2P
แม้ว่าเรื่องนี้ยากจะพิสูจน์ แต่ตอนที่ TorGuard เริ่มธุรกิจ บริษัทมีปัญหากับผู้ให้บริการการชำระเงินเนื่องจาก TorGuard อ้างอย่างเปิดเผยว่าสร้างบริการนี้ขึ้นมาโดยคำนึงถึงการให้บริการผู้ที่แชร์ไฟล์แบบ P2P ซึ่งหลายบริษัทเชื่อมโยงเรื่องนี้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์รวมถึงการละเมิดลิขสิทธิ์อื่น ๆ และไม่อยากข้องแวะกับค่ายนี้
อันที่จริง PayPal ระงับบัญชีของพวกเขา ในตอนแรกด้วยสาเหตุนี้ ซึ่งว่ากันว่าทำให้เงินของ TorGuard จำนวน 77,500 บาทถูกอายัด จนในที่สุด ปัญหาก็คลี่คลายหลังจากมีการตรวจสอบอย่างหนักในแง่มุมของกฏหมายเกี่ยวกับการกระทำของ PayPal
วันนี้ TorGuard ยอมรับการชำระเงินหลายรูปแบบได้อย่างปลอดภัยและยังคงเน้นไปที่ P2P เป็นหลัก ดังนั้น ทอร์เรนต์กันอย่างสบายใจได้เลย!
ทางบริษัทระบุไว้ว่า
ความไว้วางใจได้เป็นคุณสมบัติที่สำคัญเมื่อค้นหาผู้ให้บริการ VPN ผ่าน utorrent ทั้งนี้ TorGuard มีความชัดเจนอย่างเต็มที่เกี่ยวกับข้อกำหนดต่าง ๆ และขอเชิญลูกค้าในทุกแพ็กเกจบริการ VPN ของเราทำการทอร์เรนต์ สตรีมมิ่งและดาวน์โหลดเนื้อหาตามความต้องการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
7. การบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
เนื่องจากประสบการณ์แย่ ๆ ที่ผมประสบมาเมื่อเร็วๆนี้กับผู้ให้บริการอีกราย ผมจึงต้องทดสอบการบริการลูกค้าของ TorGuard ฉะนั้น แทนที่ผมจะส่งคำขอความช่วยเหลือไปให้ฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าตามระบบบัตรคิว ผมตัดสินใจไปที่หน้าหลักของเว็บไซต์และลองติดต่อเจ้าหน้าที่จากช่องทางนั้นโดยตรง
ผมแปลกใจมากที่ไม่ใช่แค่ได้ตอบสนองภายในหนึ่งนาทีเท่านั้น แต่พนักงานระดับหน้าด่านสามารถช่วยผมได้โดยไม่ต้องส่งต่อไปทีมสนับสนุนด้านเทคนิค!
พนักงานสามารถให้คำแนะนำอย่างรวดเร็ว ชัดเจนและมีประโยชน์มาก ซึ่งทำให้ผมแก้ไขปัญหาความเร็วที่ผมเจอกับเซิร์ฟเวอร์แอฟริกาใต้ได้และช่วยให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้นเป็นสองเท่า ทั้งหมดนี้ทำเสร็จในเวลาไม่ถึงห้านาที
เราไม่ถูกใจ TorGuard VPN ตรงไหน
1. อินเทอร์เฟซที่ดูล้าสมัย
อย่างที่หลาย ๆ คนเคยให้ความเห็นกับผมก่อนหน้านี้ว่า ผมเป็นเหมือนไดโนเสาร์ในด้านเทคโนโลยี ถึงผมจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็ยัง (ค่อนข้าง) ทันยุคทันสมัยและรู้ว่าอินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่ดีและเรียบง่ายมีลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งสำหรับ TorGuard แล้วไม่ใช่
ครั้งแรกที่เปิดไคลเอ็นต์ Windows ของ TorGuard ผมไม่ประทับใจเอาเสียเลย ผมรู้สึกราวกับว่า ได้ย้อนเวลากลับไปเกือบ 20 ปี ช่วงที่ Windows เพิ่งจะเกิดขึ้นมาไม่นาน ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึก
* รู้สึกเหมือนกันไหม อาจจะไม่ทั้งหมด แต่คุณก็พอจะเห็นภาพนะครับ (ที่มา: Wikipedia)
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ท่ามกลางสิ่งที่ดูแย่ เมื่อลองสำรวจดูอินเทอร์เฟสให้มากยิ่งขึ้น ผมตระหนักได้ว่าอินเทอร์เฟซนี้มีศักยภาพ บริการส่วนใหญ่ที่ผมเคยใช้มาจนถึงปัจจุบันมีอินเทอร์เฟซที่ “ซับซ้อนน้อยลง” อย่างมากเพื่อให้ง่ายสำหรับผู้ใช้ซึ่งจะไม่เผลอสร้างความเสียหายให้กับตัวเองมากเกินไป
อินเทอร์เฟสของ TorGuard มีตัวเลือกมากมายเสียจนคนที่เก่งเรื่องเทคนิคจะรู้สึกสนุกกับมันมาก ๆ แต่ถ้าคุณไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยี แค่เชื่อมต่อแล้วก็ใช้งานได้เลยเหมือนกัน
2. อาจจะต้องมีความรู้ทางเทคนิค
ผมลังเลที่จะระบุว่า สิ่งนี้เป็น “ข้อเสีย” เนื่องจากสำหรับผู้ที่รู้เรื่องเทคโนโลยี TorGuard มีตัวเลือกให้มากกว่า แต่คนส่วนใหญ่น่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้น หากคุณยังเป็นมือใหม่สำหรับ VPN รวมถึงระบบเครือข่ายและความปลอดภัย TorGuard อาจจะดูน่ากลัวในตอนแรก
มีตัวเลือกอย่างละเอียดในแอปพลิเคชั่น Windows ที่จะทำให้บางคนรู้สึกกลัวได้เลย หากคุณทำใจมองข้ามไปได้ ก็แค่เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการและกดเชื่อมต่อ คุณก็จะได้ใช้งานแล้ว
ท้ายที่สุด: ผมจะจ่ายเงินเพื่อสมัคร TorGuard VPN หรือไม่?
ในแง่ของความเร็ว ความเสถียรและศักยภาพ ผมต้องจัดให้ TorGuard อยู่ในอันดับต้น ๆ ในรายชื่อ VPN ที่ดีของผม สิ่งหนึ่งที่ผมไม่พอใจคือดีไซน์ของอินเทอร์เฟส ถ้าจะให้ผมพูดตรง ๆ นั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่ผมก็อดบ่นไม่ได้
ผมไม่เข้าใจว่า บริษัทที่ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลไปกับผลิตภัณฑ์ที่น่าอัศจรรย์ แต่กลับมีรูปลักษณ์และให้ความรู้สึกราวกับว่ามันมาจากสมัยโบราณ มันช่างน่าหงุดหงิดและกวนใจผมเสียจริง
สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขแบบสุด ๆ คือ การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรเวลาทอร์เรนต์ ผมรู้ว่า กระบวนการอาจจะไม่ราบรื่นและง่ายสำหรับทุกคน เนื่องจากการตั้งค่าของแต่ละคนแตกต่างกันไป แต่ TorGuard ก็ถือว่ามีศักยภาพมากอยู่ดี
แม้ว่าราคาจะไม่ได้ถูกแสนถูก แต่ก็ไม่ใช่ราคาที่ผมจะเรียกว่าแพงเป็นอันดับต้นๆ ผมยังตอบไม่ได้ว่าจะยอมควักกระเป๋าสมัครใช้บริการหรือเปล่าเพราะไม่ถูกใจอินเทอร์เฟซ แต่นั่นแค่สำหรับผมนะครับ
ถ้าคุณมองข้ามเรื่องนั้นได้ TorGuard ก็เป็นทางเลือกที่ดีและเพียบพร้อมด้วยประโยชน์สำหรับคุณอย่างแน่นอน
ฟีเจอร์หลัก
- ✓ รองรับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ทั้งหมด
- ✓ การปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์
- ✓ ความเร็วไม่จำกัด
- ✓ แบนด์วิดธ์ไม่จำกัด
- ✓ OpenVPN/SSTP/L2TP/IPsec
- ✓ การเข้ารหัสแบบตัวเลขแบบ GCM และ CBC หลาย ๆ รูปแบบ
แนะนำสำหรับ
- • ผู้ใช้ที่แชร์ไฟล์แบบ P2P
- • ผู้ใช้ที่มีความชำนาญด้านเทคโนโลยี
- • ความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
- • Mac, Windows และแพลตฟอร์มทุกประเภท
TorGuard VPN
ความเร็ว
ดีมาก
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
การเปิดเผยโฆษณา