เนื้อหาของ Bitcatcha เกิดจากการสนับสนุนของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร เรียนรู้เพิ่มเติม

 

tl;dr

CyberGhost เป็นชื่อที่ผมแน่ใจว่าคุณเคยได้ยินมาก่อน ถ้าคุณเคยค้นหาบทความเกี่ยวกับบริการ VPN หรือบริการเครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล บริษัทนี้ตั้งอยู่ในประเทศโรมาเนียซึ่งอยู่นอกกลุ่ม 14 ประเทศยุโรปที่มีข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลด้านข่าวกรองหรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม 14 ตาแห่งยุโรป และปัจจุบันบริหารเซิร์ฟเวอร์กว่า 6,000 แห่งใน 89 ประเทศทั่วโลก ผมไม่เคยเจอผู้ให้บริการ VPN ที่ทำให้ผมรู้สึกสองจิตสองใจขนาดนี้มาก่อน ถ้าว่ากันแบบสั้น ๆ หากมองข้ามข้อบกพร่องบางอย่างที่สำคัญไปได้ ค่ายนี้ถือว่ามีการป้องกันความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ดี ความเร็วที่เหมาะสม แต่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ต้องคิดดูอีกทีสำหรับแฟน ๆ การแบ่งปันไฟล์แบบ P2P เรียนรู้เพิ่มเติม

 

รีวิว CyberGhost: ข้อดี 5 ข้อและข้อเสีย 3 ข้อของการใช้ CyberGhost!

 

เขียนโดย
Timothy Shim
อัปเดตแล้ว
December 11, 2023

 

Cyberghost Black Friday Sale 2023 - ตอนนี้มีชีวิตอยู่

รับ 84% สำหรับ Cyberghost VPN พร้อม 4 เดือนพิเศษฟรี! ดูข้อเสนอ.

 

CyberGhost นั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จะบอกว่าเป็นที่รู้จักกันดีก็ไม่ใช่ แต่ถ้าจะบอกว่าไม่เป็นที่รู้จักเลยก็ไม่ใช่เหมือนกัน มันไม่ใช่ชื่อที่ทุกคนจะรู้จักหรือบางทีคุณอาจจะรู้จักถ้าเคยค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับ VPN โดยเฉพาะ

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการค้นคว้าหาข้อมูลจะส่งผลให้คุณมีมุมมองเกี่ยวกับบริษัทนี้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือ บริษัทเติบโตมาตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2011 และปัจจุบันยังมีเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายมากกว่าบริษัทชื่อดังอย่าง NordVPN (เซิร์ฟเวอร์มีจำนวนมากจนผมประทับใจ)

 

สารบัญ

 

ข้อดีของ CyberGhost

  1. เค้าโครงเครือข่ายขนาดใหญ่ทั่วโลก
  2. รองรับหลายแพลตฟอร์ม
  3. ความเร็วที่เหมาะสมและเสถียร
  4. ราคาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานระยะยาว
  5. เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง อย่างเช่น Netflix

 

ข้อเสียของ CyberGhost

  1. ไม่ทำงานนอกกรอบ
  2. นโยบายไม่เปิดเผยข้อมูลและไม่เปิดเผยตัวตนที่ดูคลุมเครือ
  3. ตัวเลือกการชำระเงินที่จำกัด

 

ข้อสรุป

 

สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ CyberGhost

 

1. เค้าโครงเครือข่ายขนาดใหญ่ทั่วโลก

 

การที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,000 แห่งใน 89 ประเทศให้เลือกอาจจะทำให้คนคิดว่าเยอะขนาดนี้น่าจะเพียงพอที่จะตั้งไว้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลกได้เลยทีเดียว สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ มีเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศสำคัญและที่ตั้งซึ่งสำคัญในเชิงกลยุทธ์เป็นพิเศษ

 

ผลคือความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่ผมได้ประเมินไป พูดตรง ๆ นะครับ สำหรับพื้นที่ครอบคลุมที่กว้างขวางขนาดนี้ โอกาสที่คุณจะพบตัวเลือกอื่น ๆ อีกมากมายที่ใกล้เคียงกันเป็นไปได้ยาก

 

 

1.1 ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่เป็นเอกลักษณ์

 

CyberGhost มีหลายสิ่งหลายอย่างมากเสียจนผมแทบไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี สำหรับผู้ให้บริการ VPN บริษัทนี้ถือว่าให้ ‘ความพิเศษ’ ที่น่าประทับใจหลายอย่างเมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย บางทีอาจจะเป็นเพราะบริษัทมีภูมิหลังมาจากผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยก็ได้ จึงมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในด้านนี้

 

บังคับการเชื่อมต่อ HTTPS

 

เริ่มจากสิ่งที่ผมสนใจมากที่สุด นั่นคือ การที่ลูกค้าของ CyberGhost สามารถบังคับให้มีการเชื่อมต่อ HTTPS กับเว็บไซต์ที่ต้องการเข้าชมได้ จริงอยู่ว่าเราอาจจะทำผ่านทางปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ได้ แต่เนื่องจากคุณต้องการใช้บริการ VPN อยู่แล้ว การมีทุกอย่างรวมไว้ในที่เดียวก็น่าจะดีกว่าใช่ไหมครับ

 

เพื่อให้เห็นภาพของประโยชน์ที่เกิดจากการบังคับการเชื่อมต่อ HTTPS ลองสมมติว่าคุณเข้าไปในเว็บไซต์ของธนาคาร การเชื่อมต่อ HTTPS จะทำให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของคุณที่วิ่งไปยังบัญชีธนาคารของคุณจะปลอดภัยตลอดเส้นทางการรับส่งข้อมูล

 

บล็อกการติดตามทางออนไลน์

 

ถัดมาคือการที่ CyberGhost สามารถลบเนื้อหาหรือรหัสบางอย่างในเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมซึ่งอาจจะคอยติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ สิ่งนี้จะป้องกันไม่ให้คุณถูกติดตามจากสิ่งที่คุณไม่รู้ซึ่งเป็นบริการที่ทุก VPN น่าจะทำอยู่แล้ว การปิดกั้นการติดตามทางออนไลน์เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกวันนี้ เนื่องจากการเก็บข้อมูลทางออนไลน์ของหลายบริษัทเริ่มมีลักษณะละลาบละล้วงมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ยกตัวอย่างเช่น Google ซึ่งตัดสินใจว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรที่จะทำให้ระบบปฏิบัติการมือถือ Android คอยแจ้ง Google ให้ทราบตลอดเวลาว่าผู้ใช้อยู่ที่ไหน นอกจากนี้ การติดตามตำแหน่ง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Google เพียงอย่างเดียว ฉะนั้น ทำไมจึงไม่ให้ CyberGhost บล็อกข้อมูลพวกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ล่ะ

 

การบล็อกโฆษณาและการป้องกันไวรัส

 

CyberGhost ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างดีจนมีตัวบล็อกโฆษณารวมไปถึงการป้องกันไวรัสและเว็บไซต์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้โฆษณาที่น่ารำคาญแสดงขึ้นมาบนหน้าจอ รวมถึงช่วยให้คุณปลอดภัยจากเนื้อหาของบางเว็บไซต์ที่อาจจะเป็นอันตรายได้

 

 

1.2 ตัวเลือกที่ดีของโปรโตคอลและการเข้ารหัส

 

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก VPN มากเท่าไหร่นัก ข้อดีหลัก ๆ ของ VPN คือ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวคือการที่คนอื่นไม่รู้ว่าคุณเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่ การรักษาความปลอดภัยคือการที่คนไม่สามารถสอดแนมสิ่งที่คุณกำลังทำ สิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างความปลอดภัยคือส่วนประกอบหลักสองอย่างได้แก่ ตัวของโปรโตคอลเองกับประเภทของการเข้ารหัส

 

CyberGhost มีข้อดีอย่างหนึ่งตรงที่มันรองรับโปรโตคอลหลักเกือบทั้งหมด (แม้แต่โปรโตคอลที่ผมไม่แนะนำให้ใช้เพราะมันล้าสมัยอย่าง L2TP) โปรโตคอลเหล่านี้มีระดับการเข้ารหัสที่แตกต่างกันซึ่งสูดสุดอยู่ที่ 256 บิต

 

ประเด็นสำคัญคือ ทางเลือกอยู่ในมือของคุณ โปรโตคอลและระดับการเข้ารหัสสามารถปรับได้ตามความต้องการของคุณ โปรโตคอลที่แตกต่างกันรองรับความเร็วในระดับที่แตกต่างกันและเห็นได้ชัดว่ายิ่งเข้ารหัสในระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ การเชื่อมต่อ VPN ก็น่าจะช้าลงเท่านั้น (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ด้วย)

 

หากสิ่งที่คุณต้องการจาก VPN คือ แค่ช่วยอำพรางไอพีของคุณและคงระดับความปลอดภัยไว้ในระดับพอประมาณ คุณก็สามารถเลือกระดับการเข้ารหัสที่ต่ำซึ่งจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อที่ความเร็วสูงได้หรือหากคุณเป็นคนขี้หวาดระแวงและต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสุด CyberGhost ก็ช่วยคุณได้เช่นกัน

 

 

1.3 เซิร์ฟเวอร์ผ่านการปรับแต่งและจัดประเภทเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย

 

เนื่องจาก CyberGhost เป็นแหล่งรวมเซิร์ฟเวอร์มากถึง 6,000 เซิร์ฟเวอร์ จึงน่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าจะไม่มีปัญหาในการเลือกการเชื่อมต่อใช่ไหมครับ จริง ๆ แล้ว ก็อาจจะไม่ใช่เสียทีเดียว ลองนึกภาพตัวคุณเองนั่งที่ร้านอาหารและมีเมนูมาให้เลือก 6,000 รายการดูสิครับ คุณคิดว่าจะเลือกถูกหรือเปล่า

 

โชคดีที่บริษัทได้ตั้งค่าและจัดกลุ่มเซิร์ฟเวอร์อย่างละเอียดรอบคอบซึ่งหมายความว่ากลุ่มของเซิร์ฟเวอร์แต่ละกลุ่มได้รับการเสริมประสิทธิภาพให้เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน คุณจะเลือกกลุ่มไหนแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณ คุณอาจจะมีรายชื่อสถานที่โปรดอยู่แล้วสำหรับใช้ในการอำพรางตำแหน่งที่ตั้งจริงของคุณหรืออาจจะเลือกจากในรายชื่อที่ระบบจัดให้มาเป็นกลุ่ม ๆ อยู่แล้ว เช่น กลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่คนใช้หนาแน่นน้อยที่สุดกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่เน้นเป็นพิเศษเรื่องความปลอดภัยจากการสอดแนม หรือแม้แต่กลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่คนใช้หนาแน่นมากที่สุด (ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณจะต้องการกลุ่มหลังสุดนี้)

 

สมมติว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของการทอร์เรนต์และมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบการแชร์ไฟล์แบบ P2P เป็นชีวิตจิตใจ CyberGhost ก็จะเสริมประสิทธิภาพให้กับเซิร์ฟเวอร์กลุ่มหนึ่งไว้สำหรับรองรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ

 

 

 

2. รองรับหลายแพลตฟอร์ม

 

สำหรับบ้านที่มีคอมพิวเตอร์แม่ข่ายในระบบ Linux คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้วินโดวส์ คอมพิวเตอร์แมครวมถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่าง ๆ ขอบอกเลยว่าคุณโชคดีมาก ! CyberGhost รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุด 7 เครื่องต่อหนึ่งบัญชีซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ใจดีที่สุดรายหนึ่งเท่าที่ผมเคยพบมา ว่ากันแบบตรงไปตรงมานะครับ ทุกวันนี้ โดยเฉลี่ยแล้วบ้านทุกบ้านมีอุปกรณ์เหล่านี้หลายชิ้นเป็นอย่างน้อย ดังนั้น ตัวเลขนี้จึงเป็นจำนวนที่เหมาะสม

 

CyberGhost Supports up to 7 Devices Per Account

 

ผู้ให้บริการ VPN หลายรายจะรองรับอุปกรณ์และระบบทั่วไปตามปกติ เช่น Windows, Linux, MacOS, Android, iOS และเราเตอร์บางตัว หากคุณสังเกตดูจากรูปด้านบนก็เห็นว่า CyberGhost ยังใช้ได้กับ Raspberry Pi, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในเครือข่ายหรือ NAS บางตัวและแม้กระทั่งอุปกรณ์เสมือน!

 

ผมรู้สึกประทับใจสุด ๆ กับความพยายามของ CyberGhost ที่ต้องการมอบตัวเลือกอันหลากหลายขนาดนี้ให้กับลูกค้า

 

ผมต้องเตือนอีกครั้งสำหรับผู้ที่คิดว่าพวกเขาจะได้รับมากกว่าอุปกรณ์ X ต่อขีดจำกัดบัญชีโดยการโยน VPN ไปยังเราเตอร์เนื่องจากได้รับการสนับสนุน

 

หมายเหตุ

การใช้บริการ VPN บนเราเตอร์ของคุณจะช่วยให้คุณเอาชนะข้อจำกัดของการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันซึ่ง VPN ส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเงินเพิ่มหากทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม การใช้บริการผ่านเราเตอร์มีข้อเสียคือ ในเกือบทุกกรณี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเราเตอร์ที่ใช้งานตามบ้านทั่วไป) การทำเช่นนั้นจะทำให้การรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลงเมื่อเทียบกับการใช้แอป VPN เฉพาะอุปกรณ์ เนื่องจากเราเตอร์มีศักยภาพน้อยกว่าในการรองรับการเข้ารหัสข้อมูลที่จำเป็นในแบบเรียลไทม์ซึ่งทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง

 

 

3. ความเร็วที่เหมาะสมและเสถียร

 

ในขณะที่ผมไม่สามารถพูดได้ว่า CyberGhost มาพร้อมความเร็วแบบสายฟ้าแล่บ แต่ผมต้องยอมรับว่าเซิร์ฟเวอร์บางแห่งมีศักยภาพสูงมาก โปรดทราบว่าผลการทดสอบความเร็วด้านล่างเป็นการทดสอบด้วยความเร็วบรอดแบนด์ในปัจจุบันของผมซึ่งตามทฤษฏีถูกจำกัดไว้ที่ 500 Mbps โดยส่วนใหญ่ความเร็วที่ได้ในภาคปฏิบัติอยู่ในระดับใกล้เคียงหรืออย่างน้อยประมาณ 450 Mbps ซึ่งถือว่าค่อนข้างดี

 

VPN ทั่วไปมักจะลดแบนด์วิดธ์ลงบ้าง ฉะนั้น ผมเลยทำใจไว้เลยว่า ความเร็วจะลดลงไม่ว่าผมจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ไหนก็ตาม แน่นอน ปัจจัยอื่น ๆ มีส่วนด้วยเช่นกัน เช่น ระยะทางระหว่างเซิร์ฟเวอร์กับตำแหน่งที่ตั้งของผม โหลดเซิร์ฟเวอร์และอื่น ๆ

 

การทดสอบ CyberGhost ด้วย SpeedTest ซึ่งน่าเชื่อถือมากนั้น ผมพบว่าความเร็วจากทั่วโลกแตกต่างกันอย่างมาก สิ่งที่ยิ่งน่าแปลกใจสำหรับผมก็คือ เซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์เร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ในมาเลเซียซึ่งเป็นจุดที่ผมอยู่เสียอีก ผมได้แต่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพราะโครงสร้างพื้นฐาน

 

โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเลือกอยู่ไกลออกไปจากตำแหน่งจริงของคุณมากเท่าไหร่ อัตราสัญญาณปิงก็จะยิ่งสูงขึ้นและความเร็วช้าลง นี่เป็นเรื่องที่คุณต้องทำใจไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บริการ VPN ค่ายไหนก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตที่สำคัญของผมคือ ผมสามารถเข้าใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 500 Mbps อยู่เสมอ

 

การทดสอบกับเซิร์ฟเวอร์มาเลเซีย
(ดูผลการทดสอบความเร็วพื้นฐานฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็วของ CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา

 

การทดสอบความเร็วของ CyberGhost ในสหรัฐอเมริกา – VPN ปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในสหรัฐอเมริกา – VPN เปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์สหภาพยุโรป (เยอรมนี)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในยุโรป – VPN ปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในยุโรป – VPN เปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์แอฟริกา (แอฟริกาใต้)

 

การที่ความเร็วจากแอฟริกาดีขึ้นเมื่อใช้ VPN น่าจะเป็นเพราะมีการบีบลดแบนด์วิดธ์ระหว่างการเชื่อมต่อแบบปกติ ตัวเลขที่เห็นถูกต้องแล้วครับเนื่องจากผมได้ตรวจสอบสองสามครั้งเพื่อสังเกตหาความผิดปกติ

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในแอฟริกา – VPN ปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในแอฟริกา – VPN เปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์เอเชีย (สิงคโปร์)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในเอเชีย – VPN ปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในเอเชีย – VPN เปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost – เซิร์ฟเวอร์ออสเตรเลีย

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในออสเตรเลีย – VPN ปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

การทดสอบความเร็ว CyberGhost ในออสเตรเลีย – VPN เปิด
(ดูผลการทดสอบความเร็วฉบับเต็มได้ที่นี่)

 

 

3.1 ความเร็วพื้นฐานดีสำหรับการใช้งานทอร์เรนต์

 

CyberGhost ทำงานอย่างหนักเพื่อขยายเครือข่ายและศักยภาพ ครั้งก่อนผมได้ทดสอบเซิร์ฟเวอร์ทอร์เรนต์ที่อยู่ใกล้ผมที่สุดซึ่งตอนนั้นอยู่ในอินเดีย (หรืออาจจะญี่ปุ่น) นับจากนั้นทางบริษัทได้เพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถใช้ทอร์เรนต์ได้อย่างต่อเนื่องและตอนนี้ก็มีอยู่ในสิงคโปร์ด้วย

 

สำหรับผม สิงคโปร์เป็นตำแหน่งที่ตั้งในฝันเลยทีเดียวและคุณสามารถใช้ตัวเลขที่ผมได้จากการทดสอบเซิร์ฟเวอร์สิงคโปร์เป็นตัวเลขอ้างอิงได้เลย และความเร็วในการใช้งานแบ่งปันไฟล์แบบ P2P คงที่ตลอดเวลาและเสถียรอยู่ในระดับนั้นตลอดสองสามวัน

 

ขอให้จำไว้ว่า ผมได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวเพื่อการใช้งานทอร์เรนต์โดยเฉพาะ ผู้ให้บริการ VPN บางรายที่ผมได้ลองมาจะยอมให้ใช้งานทอร์เรนต์ได้ทุกที่ไม่ว่าคุณจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ไหนก็ตาม ซึ่งต่างจาก CyberGhost ที่เข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเอาการ ผมเคยลองใช้งานทอร์เรนต์กับเซิร์ฟเวอร์ที่ค่ายนี้ระบุไว้ว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสำหรับการใช้งานทอร์เรนต์ ซึ่งผลที่ได้คือความเร็วในการดาวน์โหลดลดลงเหลือศูนย์เลยทีเดียว

 

 

4. ราคาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานระยะยาว

 

ราคาปกติของ CyberGhost จะอยู่ที่ 402 บาทสำหรับการสมัครสมาชิกแค่เดือนเดียว ซึ่งถ้าคุณอยากจะใช้เป็นเวลานาน ค่าใช้จ่ายก็จะสูงมาก แต่ถ้าคุณพร้อมจะสมัครสมาชิกระยะยาว ราคาจะลดฮวบลงจนอดใจไม่ไหว อันที่จริง เราได้สมัครสมาชิกสำหรับแพ็กเกจ 3 ปีซึ่งไม่เพียงแต่ราคาจะลดลงเหลือ 85 บาทต่อเดือน แต่เรายังได้แถมฟรีมาอีก 2 เดือน (รวมทั้งหมดเป็น 38 เดือน!)

 

รายปี
รายสองปี
รายสามปี

ราคา/เดือน
185 บาท
114 บาท
85 บาท

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
2,228 บาท
2,745 บาท
3,069 บาท

รอบการจ่ายเงิน
12 เดือน
24 เดือน
36 เดือน

ระยะเวลาที่รับประกันการคืนเงิน
45 วัน
45 วัน
45 วัน


 

ถ้าเทียบกับคุณภาพคับแก้วที่คุณจะได้รับจากค่ายนี้ ราคานี้ถือว่าถูกเหมือนได้ฟรี ฉะนั้น สมัครกันได้เลยโดยไม่ต้องลังเลใจ

รับประกันคืนเงินใน 45 วัน!

 

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการลองก่อนตัดสินใจซื้อ คุณสบายใจและมั่นใจได้กับการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วันจาก CyberGhost เรื่องนี้ได้รับการระบุไว้อย่างชัดเจนในหน้าคำถามที่พบบ่อยและไม่ได้เขียนด้วยภาษากฏหมายที่อ่านเข้าใจยาก

 

หมายเหตุ

CyberGhost มีเวลาให้ 45 วันหลังจากสมัครและนโยบายการคืนเงินนี้มีไว้สำหรับการสมัครสมาชิก 6 เดือนหรือมากกว่านั้น สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการซื้อที่ผิดพลาดและมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์ บางอย่าง เช่น ถ้าลูกค้าไม่สามารถใช้บริการของเราได้ (ตัวอย่างเช่นเมื่อ ISP ของคุณบล็อกการเชื่อมต่อ VPN)
 
* การสมัครสมาชิกรายเดือนสามารถขอเงินคืนได้ภายใน 14 วัน

 

ในความเป็นจริง คุณสามารถทดลองใช้งานฟรีได้ด้วยการทดลองใช้งานฟรี 7 วันโดยไม่มีข้อผูกมัดหรือเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น

 

 

5. เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง อย่างเช่น Netflix

 

ขอย้ำอีกครั้งว่า การที่ CyberGhost จัดกลุ่มเซิร์ฟเวอร์สำหรับการใช้งานด้านต่าง ๆ อย่างชัดเจนมีประโยชน์มาก ทางบริษัทได้ทำการจัดกลุ่มและเสริมประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์สำหรับการสตรีมมิ่งวิดีโอเช่นกัน ซึ่ง Netflix เป็นเพียงหนึ่งในบริการสตรีมมิ่งวิดีโอที่ทางบริษัทคิดว่าคุณอาจจะอยากใช้งาน อย่างไรก็ตาม ในการเข้าถึง Netflix ที่สหรัฐอเมริกา สิ่งที่คุณต้องทำคือ เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ตัวใดตัวหนึ่งในสหรัฐอเมริกาซึ่งทางบริษัทได้เสริมประสิทธิภาพไว้แล้วสำหรับการสตรีมมิ่งโดยเฉพาะ

 

พูดกันตรง ๆ นะครับว่า Netflix ไม่ชอบการอำพรางตำแหน่งที่ตั้งจริง ๆ ของคุณและได้พยายามทุกวิถีทางในการกำจัดบริการทำนองนี้ ให้ได้มากที่สุด แต่ CyberGhost ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรและยังรับประกันด้วยว่าคุณสามารถเข้าถึงสตรีมมิ่งของ Netflix ที่สหรัฐอเมริกาได้

 

สำหรับผู้ใช้ Windows แอปของค่ายนี้มีตัวเลือกในการปลดบล็อกการสตรีมมิ่งซึ่งเปิดโอกาสให้คุณได้สนุกเต็มที่กับบริการสตรีมมิ่งจากหลากหลายค่าย คุณไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกกับวิธีการใช้งานเพราะคุณแค่คลิกก็ใช้งานได้เลย การปลดล็อคจะขึ้นอยู่กับรายชื่อที่ได้รับการอัพเดทเป็นการภายในทุกวันโดย CyberGhost

 

 

สิ่งที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับ CyberGhost

 

1. ไม่ทำงานนอกกรอบ

 

แม้ว่าข้อนี้อาจจะไม่ถึงกับทำให้เราเลิกใช้บริการค่ายนี้และแน่นอนว่าอาจจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์ของผมในเรื่องนี้ ผมเป็นแฟนตัวยงของ plug and play และ CyberGhost Windows Client ออกจะแปลก ๆ สำหรับผม แน่นอนว่ามันติดตั้งและเริ่มต้นแอปพลิเคชั่นได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เมื่อผมคลิกปุ่มเริ่มใช้งาน มันก็ควรจะ..ไปใช่ไหมครับ

 

แต่ของผมไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมผิดหวังมากและผมต้องมานั่งหาคำตอบว่าทำไม มันใช้เวลาไม่นานและช่วยให้ผมรู้เลยว่าการตั้งค่าเริ่มต้นล่วงหน้าไม่เหมาะกับผมจริงๆ ผมต้องทำการเลือกโปรโตคอลและเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเองก่อนที่แอปพลิเคชั่น CyberGhost Windows จะใช้งานได้

 

อย่างที่ผมบอกไปว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราถึงกับอยากจะเลิกใช้บริการค่ายนี้ แต่ถ้าคุณไม่ถนัดทางเทคนิค มันอาจจะทำให้คุณตกใจได้

 

 

2. นโยบายไม่เปิดเผยข้อมูลและไม่เปิดเผยตัวตนที่ดูคลุมเครือ

 

นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมและมันควรจะเป็นสำหรับทุกคนเช่นกัน ในระหว่างที่ผมค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมารวมถึงข้อมูลด้านอื่น ๆ เพื่อเขียนรีวิว ผมรู้สึกว่ามีอะไรคลุมเครือเมื่อผมลองนึกดูว่า ตัวผมเองมีสถานะเป็นนิรนามบน CyberGhost จริงหรือไม่

 

ในขณะที่บริษัทมีนโยบายอย่างเป็นทางการว่าด้วยการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใช้บางรายสังเกตเห็นว่า มีการใช้สคริปต์อย่าง Hotjar (ซึ่งเป็นสคริปต์สำหรับการใช้งานด้านการบันทึก) จะว่าไปแล้ว ทาง CyberGhost ยอมรับเรื่องนี้อย่างเปิดเผยในเว็บไซต์ของตัวเอง แม้จะอ้างว่าข้อมูลจากการบันทึกถูกนำไปใช้เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้นก็ตาม

 

CyberGhost VPN Privacy Policy

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนแรกที่ผมเห็นว่า CyberGhost มีฐานอยู่ในประเทศโรมาเนีย ผมรู้สึกว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะประเทศนี้อยู่นอกเขตข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองของ 14 ประเทศในยุโรปที่เรียกกันว่า กลุ่ม 14 ตาแห่งยุโรป ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สุดยอดมาก อย่างไรก็ตาม ต่อมาผมก็พบว่าเจ้าของในปี 2017 ได้ขาย CyberGhost ให้กับบริษัทโฆษณาดิจิทัล ที่มีชื่อว่า CrossRider

 

แล้ว บริษัทโฆษณาดิจิทัล จะทำอะไรกับบริษัทผู้ให้บริการ VPN ซึ่งจำเป็นต้องใช้สคริปต์บันทึกเซสชั่น เรื่องมันดูซับซ้อนขึ้นและผมเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยกับเรื่องนี้

 

 

3. ตัวเลือกการชำระเงินที่จำกัด

 

สิ่งนี้จะกลับมาในประเด็นของการไม่เปิดเผยตัวตนอีกครั้งเนื่องจาก CyberGhost ยอมรับเฉพาะบัตรเครดิต PayPal หรือ BitPay เท่านั้น ใช่แล้วครับ BitPay ใช้สำหรับ Bitcoin แต่อย่าลืมว่ามีสกุลเงินดิจิทัลอยู่อีกหลายร้อยสกุลเงิน นอกจากนี้ การจ่ายเงินสดในรูปแบบของบัตรของขวัญหรือรูปแบบอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ถ้าจะทำ

 

เพราะเหตุใดบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยและการไม่เปิดเผยตัวตนจึงเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่จำกัดได้ขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นตัวเลือกที่อาจจะเปิดเผยรายละเอียดของผู้ใช้ ผมไม่มีคำตอบ แต่สำหรับผมแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับปัญหาที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้

 

 

ข้อสรุป: ผมจะควักกระเป๋าสมัครบริการของ CyberGhost หรือไม่

 

ก่อนที่ผมจะเริ่มข้อสรุป ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวสักนิดนะครับ ถ้าผมจะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการ VPN ผมจะคาดหวังประสิทธิภาพระดับหนึ่งในแง่ของความเร็ว ผมไม่ได้เรื่องมากในประเด็นของตัวเลือกการชำระเงินหรือประเด็นทำนองนั้น ตราบใดที่ไม่มีการเปิดเผยตัวตนก็เพียงพอแล้ว

 

ผมได้กล่าวถึงสิ่งดี ๆ มากมายเกี่ยวกับ CyberGhost และรับประกันได้เลยว่าค่ายนี้ให้อะไรมากมายที่คุณจะไม่ได้จากผู้ให้บริการรายอื่น ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสมัครแพ็กเกจระยะยาวได้ในราคาที่ถูกแสนถูก ทว่าในความคิดของผม บริการที่สุดยอดกว่าเพื่อนของค่ายนี้คือ การเสริมประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์ที่เจ๋งมาก ๆ

 

ขอยกตัวอย่างกรณีการสตรีมมิ่งวิดีโอและเซิร์ฟเวอร์ทอร์เรนต์ที่ผมได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ หากสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการ ผมจะบอกว่า CyberGhost เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟน ๆ ของทอร์เรนต์ นักสตรีมมิ่งวิดีโอและคนที่ชอบเข้าถึงเนื้อหาที่มีการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์

 

อย่างไรก็ตาม ในใจของผมมีคำว่า แต่ ที่ใหญ่มาก และอาจจะเป็นประเด็นที่ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะไม่สมัครใช้บริการ CyberGhost เมื่อพิจารณาจากความเป็นส่วนตัวและการไม่เปิดเผยตัวตน ข้อมูลที่ผมได้มาเกี่ยวกับสองประเด็นนี้ยังมีข้อกังขาและข้อโต้เถียงมากเกินกว่าที่ผมจะรู้สึกปลอดภัยในการใช้ CyberGhost ได้

 

ขณะที่คำกล่าวอ้างของ CyberGhost ที่ว่าใช้สคริปต์สำหรับการบันทึกข้อมูลเพื่อนำมาปรับปรุงบริการอาจจะฟังขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป แต่ผมคิดว่ากลยุทธ์เหล่านี้ฟังไม่ขึ้นหากเป็นผู้ให้บริการ VPN ดังนั้น ลองชั่งน้ำหนักดูระหว่างความคุ้มค่าและประสิทธิภาพกับความเสี่ยงในเรื่องการเปิดเผยตัวตน

 

ผมรู้สึกว่า เป็นเรื่องยากที่จะพูดว่าคุ้มหรือไม่คุ้มถ้าหากจะสมัครใช้บริการของค่ายนี้ ฉะนั้น การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไร

 

ฟีเจอร์หลัก

  • ✓ รองรับแพลตฟอร์มจำนวนมาก
  • ✓ การปิดกั้นโฆษณาและมัลแวร์
  • ✓ การเข้ารหัสแบบ 256 บิต
  • ✓ เซิร์ฟเวอร์จัดกลุ่มแยกเป็นแต่ละประเภท
  • ✓ OpenVPN/SSTP/L2TP/IPsec
  • ✓ แพ็กเกจระยะยาวราคาเยี่ยม

แนะนำสำหรับ

  • • คนที่ชอบการสตรีมมิ่งวิดีโอ
  • • คนที่ไม่สนใจเกี่ยวกับการไม่เปิดเผยตัวตน
  • • ผู้ชื่นชอบการแบ่งปันไฟล์แบบ P2P
  • • เจ้าของอุปกรณ์แพลตฟอร์มเฉพาะ


 

สมัคร CYBERGHOST ที่ลด 79% (85 บาท*/เดือน)

* ราคาสำหรับการสมัครสมาชิก 36 เดือนที่มีการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วัน
** มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,000 แห่งทั่วโลก ใช้งานพร้อมกันได้ 7 อุปกรณ์ ช่วยเหลือดูแลทางเทคนิค ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

 

CyberGhost

ความเร็ว

ปานกลาง

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ฟีเจอร์เด่น

ใช้งานพร้อมกันได้ 7 อุปกรณ์ บล็อกโฆษณา บีบอัดข้อมูลแล้ว

ดูรายการฟีเจอร์ทั้งหมด

ราคาเริ่มต้นที่

85 บาท*

ต่อเดือน

เข้าชมเว็บไซต์ VPN

  • • ราคาสำหรับแผน 3 ปี

การเปิดเผยโฆษณา