Hostinger
Hostinger ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่มีความสมดุลอย่างแท้จริง พวกเขานำเสนอความเร็วที่รวดเร็ว ฟีเจอร์ขั้นสูง และทีมสนับสนุนระดับโลกที่ยอดเยี่ยม แต่ราคาของพวกเขาก็ยังต่ำที่สุดในตลาดทำให้มันคุ้มค่าเงินจริงๆ! เรียนรู้เพิ่มเติม
รีวิว Hostinger – 10 ข้อดีและ 2 ข้อเสีย (ผ่านการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์และช่วงเวลาให้บริการแล้ว 3 ไซต์!)
Hostinger Black Friday Sale 2023 - LIVE
รับ 70% สำหรับแผนเว็บโฮสติ้งจากต่ำสุดที่ 69 บาท /เดือน ใช้รหัส BITCATCHA10 เพื่อลด 10%! ดูข้อเสนอ.
เราเพิ่งทดสอบความเร็วเสร็จหมาด ๆ ด้วยเว็บไซต์ทดสอบ Hostinger ของเรา ซึ่งเรา อดใจไม่ไหว และอยากจะแบ่งปันสิ่งที่เราค้นพบกับคุณ *ขอบอกก่อนเลยนะครับว่า หากคุณหลงใหลความเร็วเหมือนกับเรา คุณจะรู้สึกสะใจกับความเร็วของค่ายนี้เลยทีเดียว *!
สารบัญ
ข้อดีของ Hostinger
- Hostinger เร็วแรง ได้ใจจริง ๆ
- Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%
- โหลดเร็วขึ้นด้วยตัวจัดการแคชชิ่ง
- สิทธิประโยชน์สุดเจ๋งที่ช่วยเพิ่มความเร็ว!
- แดชบอร์ดที่ออกแบบมาได้ยอดเยี่ยม
- ทีมสนับสนุนที่ตอบสนองฉับไว (แถมสนุกสนานด้วย!)
- โดเมนฟรี
- ฟีเจอร์ไม่จำกัด
- ราคาสมัครใช้งานครั้งแรกแสนจะถูก
- พวกเขาสร้างเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยม (อัปเดตปี 2023)
ข้อเสียของ Hostinger
แพ็กเกจและฟีเจอร์ของ Hostinger
Hostinger รับมือกับการแข่งขันได้อย่างไร
- Hostinger เทียบกับ SiteGround (ในฐานะเว็บโฮสติ้งแบบแชร์)
- Hostinger เทียบกับ Hostgator (ในฐานะเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์)
บทสรุป
ก่อนอื่นเรามาดูกันสักหน่อยว่า Hostinger เป็นยังไงมายังไง
นานมาแล้วในเมืองอันห่างไกลอย่างเคานัสในประเทศลิทัวเนีย บริษัทเล็กๆที่ชื่อ “Hosting Media” ได้ถือกำเนิดขึ้น 6 ปีผ่านไปพร้อมกับ 1 ล้านผู้ใช้ที่มาในเวลาต่อมา บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น Hostinger
ตั้งแต่นั้นมา Hostinger Hostinger ก็ไม่หยุดเติบโต พวกเขาได้ก่อตั้งศูนย์ข้อมูล 7 แห่ง มีผู้ใช้มากกว่า 29 ล้านคนใน 178 ประเทศ และไม่มีสัญญาณของการชะลอตัว!
ประการหนึ่ง – เมื่อเราดำเนินการวิจัยแบรนด์ในต้นปี 2021 Hostinger ดูเหมือนจะเป็นโฮสต์ที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในปี 2020 จาก 20 แบรนด์โฮสต์เว็บชั้นนำ
ไม่เพียงแต่การเข้าชมเว็บของพวกเขาดูเหมือนจะเติบโตเร็วที่สุด แต่ยังเป็นโฮสต์ที่มีการค้นหามากที่สุดในปี 2020 โดยผู้คนทั่วโลกตาม Google Trends
พวกเขาอัปเกรดฮาร์ดแวร์และการเข้าถึงทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นในผลการทดสอบที่ยอดเยี่ยม
เหตุใดความเร็วจึงสำคัญสำหรับเรา
หากคุณติดตามบล็อกและรีวิวของเรา คุณจะรู้ว่าเราชอบเว็บโฮสติ้งเหมือนกับที่เราชอบรถของเรา นั่นคือทั้งเร็วทั้งหวือหวา! อาจจะไม่หวือหวาแต่ต้องเร็ว!
เราให้ความสำคัญกับความเร็วของเว็บโฮสติ้งเป็นอย่างมาก เพราะความเชื่องช้าเป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนการขายแต่ละครั้งมีความหมายสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งต่างจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ฉะนั้น เรายอมไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียลูกค้าเพราะปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ เช่น เว็บโฮสติ้งช้า
ทุกวันนี้ บรรดาลูกค้าต่างคาดหวังว่าเว็บไซต์จะโหลดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที! ถ้าหากต้องใช้เวลาโหลดนานกว่านี้ อัตราการออกจากหน้าเว็บจะเพิ่มขึ้นตามลำดับจนถึงระดับ 32% และทุกอย่างจะเริ่มดูแย่มากถ้าการโหลดใช้เวลานานกว่า 5 วินาที
เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรามีความสุข เราเองก็เริ่มติดนิสัยที่จะปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนเด็ก 2 ขวบที่รอไม่เป็น เราหาวิธีที่จะให้สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างทันอกทันใจ มิฉะนั้นพวกเขาจะเริ่มโอดครวญ ทุกวันนี้ เราให้ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บของเราได้ข้อมูลที่ต้องการภายในไม่ถึงวินาที เพราะเราไม่ต้องการให้ผู้เข้าชมออกจากเว็บไซต์และทิ้งรถเข็นสั่งสินค้ากลางคัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราสนใจเว็บโฮสติ้งที่ตอบสนองรวดเร็วเป็นพิเศษ
เนื้อหาของบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจแพ็กเกจบริการเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ในระดับพรีเมี่ยมของ Hostinger 3 แพ็กเกจ (แพ็กเกจหนึ่งในสิงคโปร์ อีกแพ็กเกจหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และอีกแห่งในยุโรป) เพื่อที่เราจะได้เห็นกันอย่างชัดเจนว่า ค่ายนี้ตอบสนองรวดเร็วแค่ไหนและจะเหมาะกับคุณหรือไม่
หมายเหตุ
เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้รวบรวมข้อมูลเพียงพอที่จะเขียนรีวิวนี้ เราได้สร้างเว็บไซต์ทดลอง 3 เว็บไซต์ ซึ่งศูนย์ข้อมูลสำหรับเว็บไซต์ทดลองของเราตั้งอยู่ใน 3 ทวีป (เมืองแอชวิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนาในสหรัฐ นครอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์) ฉะนั้น คุณจะตัดสินได้เลยว่าค่ายนี้ประสิทธิภาพเป็นอย่างไรในสถานที่ซึ่งใกล้ลูกค้าของคุณมากที่สุด
เอาละครับ เราได้เกริ่นมามากพอแล้ว ตอนนี้มาเข้าเรื่องสำคัญของบทความนี้กันเลย :
10 เหตุผลที่ Hostinger เป็นโฮสต์ที่ใช่สำหรับคุณ!
1. Hostinger เร็วแรง ได้ใจจริง ๆ
เราทดสอบความเร็วเว็บไซต์ทดลอง Hostinger ของเราในศูนย์ข้อมูลสหรัฐอเมริกา โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ ของเราเอง (ยังคงเป็นเครื่องมือตรวจสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดและมีเพียงแห่งเดียวในโลก #shamelessplug) โดยเปรียบเทียบกับระดับความเร็วที่ Google แนะนำซึ่งกำหนดไว้ที่ 200 มิลลิวินาทีต่อไปนี้คือผลลัพธ์ครับ
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
75 ms | 21 ms | 92 ms | 244 ms | 136 ms |
บังคาลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
---|---|---|---|---|
211 ms | 265 ms | 172 ms | 37 ms | 107 ms |
ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ ผลการทดสอบความเร็วของเว็บไซต์ทดลอง Hostinger ของเราในสหรัฐอเมริกามีค่าเฉลี่ยความเร็วทั่วโลกน่าประทับใจสุด ๆ ที่ 136 มิลลิวินาที ซึ่งเป็นหนึ่งในโฮสต์ระดับ A+ ของเราเลยทีเดียว!
ต่อมาเราก็ทดสอบเว็บไซต์ Hostinger ที่ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์เพื่อดูว่า มันตอบสนองต่อสัญญาณ Ping จากทั่วทุกมุมโลกอย่างไร
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
179 ms | 250 ms | 216 ms | 3 ms | 347 ms |
บังคาลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
---|---|---|---|---|
58 ms | 93 ms | 78 ms | 248 ms | 217 ms |
หากคุณตั้งใจเน้นกลุ่มเป้าหมายในเอเชีย (และออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์) คุณต้องดีใจแน่นอนที่ทราบว่า ระยะ เวลาตอบสนองของ Hostinger จากสิงคโปร์ใช้เวลาเพียง 5 มิลลิวินาทีเท่านั้นเอง โดยมีความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก 168.9 มิลลิวินาที ฉะนั้น Hostinger สิงคโปร์ก็ได้รับการจัดอันดับที่ระดับ A+ จากเราด้วยเช่นกัน
สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดคือ ความเร็วเว็บไซต์ทดลอง Hostinger ในยุโรปครับ
US (W) | US (E) | ลอนดอน | สิงคโปร์ | เซาเปาลู |
---|---|---|---|---|
143 ms | 83 ms | 9 ms | 239 ms | 194 ms |
บังคาลอร์ | ซิดนีย์ | ญี่ปุ่น | แคนาดา | เยอรมนี |
---|---|---|---|---|
118 ms | 267 ms | 262 ms | 848 ms | 10 ms |
สำหรับคนที่พุ่งเป้าไปยังตลาดยุโรป Hostinger เป็นหนึ่งในเว็บโฮสติ้งที่เร็วที่สุดสำหรับคุณด้วยความเร็ว 9 มิลลิวินาทีจากลอนดอน ซึ่งเป็นความเร็วที่น่าประทับใจจริงๆ! Hostinger ยุโรปมีความเร็วเท่า ๆ กับสิงคโปร์และอเมริกา โดยมีความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกที่ 141.3 มิลลิวินาทีซึ่งหมายความว่าอยู่ในอันดับ A+ เช่นกัน !
หากคุณศึกษาผลการทดสอบของเรา คุณอาจไม่สบายใจเล็กน้อยว่าสถานที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์ข้อมูลเหล่านั้นความเร็วแรงอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่นั่นเป็นเรื่องปกติเนื่องจากข้อมูลต้องเดินทางไกลขึ้นไปอีกเพื่อไปยังเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาเนื่องจาก Hostinger มี ศูนย์ข้อมูลทั้งหมด 6 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป บราซิล เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์และอินโดนีเซีย (อีก 1 แห่งกำลังสร้างอยู่ในลิทัวเนีย) แค่เลือกศูนย์ข้อมูลที่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด พวกเขาก็จะได้เพลิดเพลินกับความเร็วในการโหลดที่ยอดเยี่ยมของเว็บไซต์ของคุณในทุกรูปแบบ!
2. Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%
มีเพียงไม่กี่คนที่ให้ความสนใจกับการรับประกันช่วงเวลาให้บริการอย่างจริงจัง แต่สำหรับเราแล้วมันทำให้เรารู้สึกดีหรือแย่กับเว็บโฮสติ้งนั้น ๆ ได้เลย เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้งานให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเว็บไซต์ล่มไม่ว่าจะรูปแบบไหนอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสในการขาย
การหยุดทำงานเป็นเวลานานอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณสูญเสียอันดับในการแสดงผลการค้นหาด้วย Google ซึ่งเป็นข่าวร้ายมากสำหรับคนทำธุรกิจ
แม้ว่าบริษัทเว็บโฮสติ้งบางแห่งให้การรับประกันช่วงเวลาการให้บริการ แต่บางบริษัทก็อาจจะใช้คำพูดที่ค่อนข้างคลุมเครือ เช่น “การจ่ายเงินขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเรา” ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจจะเลือกที่จะไม่คืนเงินตามที่พวกเขารับประกันก็ได้
เราเข้าไปอ่านเงื่อนไขการให้บริการของ Hostinger แต่ก็ไม่พบร่องรอยของคำพูดคลุมเครือแบบนั้น
หากเว็บไซต์ของคุณมีช่วงเวลาให้บริการได้ตามปกติต่ำกว่า 99.9% เนื่องจากความผิดพลาดของ Hostinger คุณติดต่อทางบริษัทได้เลยเพื่อรับเงินคืน 5% จากค่าบริการรายเดือนของคุณ
จนถึงตอนนี้เราพอใจมากกับช่วงเวลาให้บริการของ Hostinger อย่างไม่ต้องสงสัย!
ระยะเวลาให้บริการตั้งแต่มีนาคม 2019
99.95%
ช่วงเวลาให้บริการของ Hostinger แอชวิลล์ นอร์ทแคโรไลน่า
ระยะเวลาให้บริการตั้งแต่มีนาคม 2019
99.87%
ช่วงเวลาให้บริการของ Hostinger เนเธอร์แลนด์
ระยะเวลาให้บริการตั้งแต่มีนาคม 2019
100%
ช่วงเวลาให้บริการของ Hostinger สิงคโปร์
หมายเหตุ
เครื่องจับเวลาการให้บริการที่แสดงด้านบนได้รับการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาการให้บริการจะถูกติดตามตรวจสอบด้วย UptimeRobot ทุกๆ 5 นาที
3. โหลดเร็วขึ้นด้วยตัวจัดการแคชชิ่ง
เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ Hostinger ได้คิดค้นวิธีต่าง ๆ มากมายในการปรับปรุงความเร็วในการโหลด หนึ่งในนั้นคือตัวจัดการแคชชิ่งที่ทางค่ายพัฒนาขึ้นมาเองซึ่งช่วยให้สามารถโหลดได้เร็วขึ้นและความเร็วดีขึ้น!
นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อเปิดใช้งาน
เข้าสู่ hPanel และกด “Manage” บนเว็บไซต์ที่คุณต้องการเปิดใช้งาน เลื่อนลงไปที่ “Advanced” คุณจะเห็น “Cache Manager” แสดงเป็นหนึ่งในตัวเลือก คลิกที่ “Cache Manager”
เมื่อคุณเข้าไปที่ Cache Manager แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือคลิกที่ “Change” และคุณจะเห็นปุ่ม “Automatic Cache” เปลี่ยนเป็นสีเขียวซึ่งแสดงว่าเปิดเรียบร้อยแล้ว คลิกที่ “Purge All” เท่านี้ก็เรียบร้อย!
เราทำการทดสอบบนเว็บไซต์ทดลองของเราที่ใช้กับ Hostinger โดยใช้ webpagetest.org เพื่อดูว่ามันทำงานเป็นยังไงเมื่อใช้กับตัวจัดการแคชชิ่งและนี่คือผลลัพธ์:
(ดูผลการทดสอบฉบับเต็ม)
เว็บไซต์ทดลองของเราเป็นเว็บสำรองซึ่งในนั้นไม่มีอะไรมาก รวมถึงไม่มีการเสริมประสิทธิภาพอะไรเลย ฉะนั้น ก็เลยไม่มีอะไรให้ตัวจัดการแคชชิ่งได้ทำมากนัก อย่างไรก็ตาม คุณจะได้เห็นเอฟเฟกต์ของตัวจัดการแคชชิ่งได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเว็บไซต์มีเนื้อหาและรูปภาพมากขึ้น
4. สิทธิประโยชน์สุดเจ๋งที่ช่วยเพิ่มความเร็ว!!
บัญชี Hostinger ของเราที่เป็นบริการเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ระดับพรีเมี่ยมมาพร้อมกับรายการสิทธิประโยชน์อย่างเต็มพิกัดซึ่งทั้งหมดช่วยเพิ่มความเร็วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ต่อไปนี้คือรายการโปรดของเราครับ!
- ตัวติดตั้งด้วยคลิกเดียว
ฟีเจอร์นี้ทำให้การติดตั้งแอปโปรดของเราสะดวกสบายขึ้นมาก เราไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองอีกแล้ว เพียงแค่คลิกเดียว คุณก็สามารถติดตั้งแอปโปรดของคุณได้เลย - รองรับ PHP7
หากคุณเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ คุณจะยินดีที่ทราบว่า Hostinger รองรับ PHP7! PHP7 เป็นหนึ่งใน PHP ที่เจ๋งที่สุดในรอบ 10 ปีซึ่งเมื่อเทียบกับ PHP5 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าก็เรียกว่า เร็วกว่าเยอะมาก ในการทดสอบกับ Drupal และ WordPress ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐาน จะเห็นได้ชัดเลยว่า PHP7 นั้นเร็วกว่า PHP5.6 ถึงสองเท่า
(ที่มา: talks.php.net) - รองรับ Git
Git เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากที่ใคร ๆ ก็เคยได้ยิน แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง เอาเป็นว่า git คือระบบควบคุมการเปลี่ยนแปลงของไฟล์แบบโอเพนซอร์ส ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถทำงานร่วมกันในโครงการของตัวเองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะโครงการเล็กหรือใหญ่
Git ได้รับความนิยมจนบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งนำไปใช้งาน เช่น Google, Microsoft, Facebook และแม้แต่ Netflix!
มันอาจไม่สำคัญสำหรับคุณมากนัก แต่หากคุณจะจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสร้างบางสิ่งบางอย่างสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ พวกเขาจะดีใจมากที่เว็บโฮสติ้งของคุณรองรับ Git ซึ่งมันช่วยให้กระบวนการแก้ปัญหาราบรื่นขึ้นมาก! - เสริมประสิทธิภาพสำหรับ WordPress
แพ็กเกจเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ของ Hostinger มาพร้อมกับ WordPress เวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งได้รับการเสริมประสิทธิภาพจนสามารถโหลดได้เร็วอันดับต้น ๆ ในวงการ ทั้งนี้ เว็บไซต์ที่มีอยู่ทั่วโลกเป็น WordPress ถึง 30 % (มันเป็นสิ่งที่เจ๋งมาก!) ดังนั้น เราจึงขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ! - NGINX แคชชิ่งที่ทันสมัย
อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณควรใช้ WordPress กับ Hostinger คือ NGINX แคชชิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ WordPress ได้อย่างมากโดยการเพิ่มความเร็วในการโหลดเนื้อหาแบบคงที่ผ่านการสตรีมไลน์ข้อมูล - HTTP/2
หรือพูดอีกอย่างก็คือ HTTP 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก HTTP1 และเร็วกว่า ปลอดภัยกว่าและใช้งานง่ายกว่ามาก
HTTP/2 ทำงานโดยส่งข้อมูลผ่านรหัสเลขฐานสองซึ่งจะช่วยลดขนาดข้อมูลและเพิ่มความเร็ว ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บของคุณจะรู้สึกว่าประสิทธิภาพการโหลดเว็บไซต์ของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด! - แคช LiteSpeed
LiteSpeed Cache เป็นปลั๊กอิน WordPress ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้อย่างมาก ซึ่งข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างมากของการตอบสนองการเรียกข้อมูลหรือ TTFB
เมื่อคุณติดตั้ง WordPress ผ่าน Auto Installer ของ Hostinger ตัว LiteSpeed Cache จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติให้คุณโดยไม่ยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย! คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานได้ที่นี่
5. แดชบอร์ดที่ออกแบบมาได้ยอดเยี่ยม
Hostinger เป็นหนึ่งในบริษัทเว็บโฮสติ้งเพียงไม่กี่แห่งที่มีพื้นที่ใหญ่พอให้ผู้ใช้ได้เล่นกับอินเทอร์เฟซของ cPanel แถมยังบริหารจัดการทุกอย่างได้อย่างลงตัว
แดชบอร์ดที่ Hostinger ออกแบบเองมีชื่อว่า hPanel ไม่รกและใช้งานง่ายมากจนแทบไม่ต้องคิด ฟีเจอร์ทั้งหมดถูกจัดเรียงตามหมวดหมู่และไอคอนก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ดูดีเหมือนสินค้ายี่ห้อ Muji คุณจะรู้สึกได้ว่า ที่นี่มีทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้คุณ มันใช้งานง่ายมากจนผมคิดว่า แม้แต่คนที่ไม่มีประสบการณ์ก็ยังสามารถใช้ hPanel ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอชื่นชมทีมออกแบบอินเทอร์เฟซและทีมออกแบบเพื่อประสบการณ์อันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้แดชบอร์ดของ Hostinger !
6. ทีมสนับสนุนที่ตอบสนองฉับไว (แถมสนุกสนานด้วย!)
บางครั้งการติดต่อสื่อสารกับทีมสนับสนุนของบริษัทเว็บโฮสติ้งอาจจะทำให้คน ๆ หนึ่งอยากจะมุดตัวไปตามสายโทรศัพท์เพื่อจัดการกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่บางครั้งการได้พูดคุยผ่านสายโทรศัพท์ก็น่าพอใจ มีประสิทธิผลและตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม เรายินดีที่จะบอกว่า จากประสบการณ์ของเรากับทีมสนับสนุนของ Hostinger พวกเขาอยู่ในประเภทหลัง
เราไม่มีโอกาสในการส่งเรื่องเข้าไปตามระบบบัตรคิว (ระบบที่เราตั้งไว้หายไปเฉย ๆ เลย) ดังนั้น เราจึงติดต่อ ผ่านทางแชทสดเพื่อดูว่าฝ่ายสนับสนุนตอบสนองต่อปัญหาพื้น ๆ ยังไงซึ่งเราก็ประทับใจมากจริง ๆ !
ทีมสนับสนุนไม่เพียงแต่ตอบกลับมาแทบจะในทันที (เรารออยู่สองสามวินาทีแต่ก็ถือว่าน่าทึ่งมากเพราะเว็บ โฮสติ้งบางแห่งปล่อยให้เราต้องรอเกือบ 30 นาที) พวกเขารู้จริง อดทนและสนุกสนาน พวกเขาให้ความอบอุ่นใจและสบายใจกับคุณในขณะที่พวกเขาจะค่อย ๆ ช่วยคุณแก้ไขปัญหาอย่างใจเย็น
ถ้า Hostinger จะมีอะไรสักอย่างที่ใช่ นั่นก็คือ อินเทอร์เฟสของฝ่ายสนับสนุน :
เราสื่อสารด้วย gif และอิโมจิ (ซึ่งบางคนอาจบอกว่าเป็นลูกเล่นทางการตลาด แต่เรารู้สึกว่าวิธีนี้ช่วยลดความว้าวุ่นใจเมื่อเจอกับเรื่องที่ซับซ้อน) นอกจากนี้ เราสามารถส่งไฟล์แนบได้อีกต่างหาก ! นี่เป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมสำหรับช่วงเวลาที่รูปภาพอธิบายได้ดีกว่าคำพูดเป็นพัน ๆ คำ
ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่กระตือรือร้นอยากจะแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับฝ่ายสนับสนุนของ Hostinger ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างจริงจากสิ่งที่ลูกค้าคนอื่น ๆ พูดถึงประสบการณ์ของพวกเขากับทีมสนับสนุนของ Hostinger:
ทีมสนับสนุนใช้ “ระบบให้ความช่วยเหลือครบจบในที่เดียว” (นี่เป็นชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการ อย่าใช้ตามเรา) ซึ่งสมาชิกในทีมแต่ละคนจะได้รับการอบรมให้ตอบคำถามให้ได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องส่งต่อ ส่งผลให้แก้ปัญหาได้รวดเร็วมากเนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาส่งคุณไปยังทีมสนับสนุนระดับสูงขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาของคุณ
สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างเกี่ยวกับการสนับสนุนของค่ายนี้คือ การสื่อสารด้วยเจ้าของภาษา ! ทีมสนับสนุนให้บริการ 20 ประเทศจากศูนย์สนับสนุน 4 แห่งโดยใช้ภาษาของประเทศนั้น ๆ ฉะนั้น คนในประเทศต่าง ๆ จึงสื่อสารกับทีมได้ง่ายขึ้นซึ่งทางบริษัทกำลังวางแผนที่จะจำนวนภาษาเข้าไปอีก
7. โดเมนฟรี!
หากใครยังไม่ทราบมาก่อน ผมขอบอกอีกทีว่า การเริ่มต้นเว็บไซต์ คุณต้องซื้อชื่อโดเมนจากผู้รับจดทะเบียนโดเมนนอกเหนือจากการจ่ายค่าเว็บโฮสติ้ง ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อาจรวมกันแล้วกลายเป็นเงินก้อนโตซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เพิ่งเริ่มต้น
การขอชื่อโดเมนฟรีจากเว็บโฮสติ้งของคุณช่วยได้มากและ Hostinger สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ด้วยการให้โดเมนฟรี!
สิ่งเดียวที่ควรตระหนักคือ เมื่อมีโดเมนแล้ว คุณควรจะปกป้องคุ้มครองข้อมูลเกี่ยวกับโดเดนที่รู้จักกันในนาม WHOIS ซึ่งจะช่วยปกป้องตัวตนออนไลน์ของคุณ ผู้รับจดทะเบียนโดเมนบางรายอย่าง Namecheap ให้การคุ้มครอง WHOIS ฟรี แต่ไม่ใช่ผู้รับจดทะเบียนทุกรายจะใจดีแบบนี้ ส่วนใหญ่คุณจะต้องจ่ายเงินสำหรับส่วนนี้ซึ่งน่าเสียดายที่ Hostinger ก็คิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
แต่ถ้ามองในแง่ดี คุณก็ได้รับ โดเมนฟรี อยู่แล้ว ! การจ่ายเงิน 150 บาทต่อปีเพื่อการคุ้มครอง WHOIS นั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่เล็กน้อยและคุ้มค่ามาก !
8. ฟีเจอร์ไม่จำกัด!
เหมือนกับว่าข้อดีทุกอย่างที่ว่ามานี้ยังไม่น่าประทับใจพอ Hostinger เลยสร้างความประทับใจเพิ่มขึ้นไปอีก ด้วยแพ็กเกจพรีเมี่ยมซึ่งมีฟีเจอร์ให้แบบไม่อั้น มาดูฟีเจอร์บางส่วนกันครับ
- เว็บไซต์ไม่จำกัด
ด้วยบัญชีเพียง 1 บัญชี Hostinger ให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้มากเท่าไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ! - แบนด์วิธไม่จำกัด
คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเว็บไซต์ล่มเนื่องจากการเข้าชมสูงผิดปกติหากคุณใช้บริการ Hostinger Premium คุณจะได้รับแบนด์วิธแบบไม่อั้นเพื่อให้คุณสามารถรองรับผู้เข้าชมเว็บได้มากเท่าที่คุณต้องการ! - อีเมลไม่จำกัด
ผมพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็กอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ได้เพราะค่าใช้จ่ายแบบเบี้ยหัวแตก บริการอีเมลเป็นหนึ่งในต้นทุนเหล่านั้นครับ โชคดีที่แพ็กเกจพรีเมี่ยมของค่ายนี้เปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างอีเมลได้ไม่จำกัดเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของเรา ซึ่งอีเมลทั้งหมดโฮสต์อยู่ในพื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD แบบไม่จำกัดของเรา! - CronJobs
การที่เราจะต้องวางแผนตั้งคำสั่งล่วงหน้าหรือ CronJobs อย่างละเอียดรอบคอบเพราะถูกจำกัดจำนวนการใช้ Cronjobs กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว แพ็กเกจพรีเมี่ยมของ Hostinger อนุญาตให้ใช้ Cronjobs ได้ไม่จำกัดเพื่อให้คุณไปไหนมาไหนได้สบายหายห่วง ! - โบนัสพิเศษ – SSL ฟรี!
นี่ไม่ใช่ฟีเจอร์แบบไม่จำกัดเสียทีเดียว แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ Hostinger ได้เพิ่ม SSL ฟรีเพิ่มจากฟีเจอร์ Let’s Encrypt สำหรับแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ทั้งหมดเพื่อยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกโดยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกเลย ฉะนั้น ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณสามารถเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อแบบที่มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย!
9. ราคาสมัครใช้งานครั้งแรกแสนจะถูก
ราคาสมัครใช้งานครั้งแรกของ Hostinger คือสิ่งที่ทำให้บริษัทเว็บโฮสติ้งแห่งนี้แตกต่างจากคู่แข่ง
Hostinger มีฟีเจอร์เกือบทั้งหมดเหมือนกับเว็บโฮสต์ระดับพรีเมี่ยมแต่มีราคาถูก แพ็กเกจพรีเมี่ยมของค่ายนี้ราคาเพียง 90 บาทต่อเดือนและแพ็กเกจ Single ราคาเพียง 31 บาทต่อเดือนสำหรับผู้สมัครใช้งานครั้งแรก ในการเปรียบเทียบ คุณอาจจ่ายผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งระดับพรีเมียมสูงถึง 210 บาท/เดือน สำหรับฟีเจอร์และประสิทธิภาพที่คล้ายคลึงกัน
ในแง่ของความคุ้มค่า เราต้องยอมรับเลยว่า Hostinger เป็นหนึ่งในเว็บโฮสติ้งที่ราคาคุ้มค่าที่สุดในวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น!
10. พวกเขาสร้างเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยม (อัปเดตปี 2023)
Hostinger เพิ่งเพิ่มเครื่องมือสร้างเว็บไซต์เข้าไปในคลังสินค้าของพวกเขาเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจอยู่แล้ว เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ Hostinger (เดิมชื่อ Zyro) มุ่งเป้าไปที่มือใหม่ในหมู่ผู้ใช้และสร้างเรียบง่ายในระดับใหม่ทั้งหมด
สิ่งที่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของ Hostinger นำเสนอคือประสบการณ์แบบองค์รวมที่มากกว่า พวกเขาทำให้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ขั้นพื้นฐานง่ายขึ้นและเพิ่มคุณสมบัติภายนอกที่จะช่วยให้ผู้ใช้สร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงความสามารถในการสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ การออกแบบที่คล่องตัว และอื่นๆอีกมากมาย
- นักเขียน AI
- แผนที่ความร้อน AI
- เครื่องสร้างโลโก้และสโลแกน
- คลังรูปภาพขนาดใหญ่ (ฟรี!)
- สูงสุดถึง 100 เว็บไซต์
คุณสามารถอ่านรีวิวอย่างละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ Hostinger สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม!
สิ่งที่เราผิดหวังกับ Hostinger
จนถึงตอนนี้เราก็ยังชอบ Hostinger ในฐานะเว็บโฮสต์ แต่ถ้าจะบอกว่าค่ายนี้ไม่มีข้อบกพร่องเลยก็ไม่ใช่ นี่คือบางส่วนของสิ่งที่เราไม่ประทับใจ
1. ไม่มีการสำรองข้อมูลรายวัน
การขาดฟีเจอร์นี้ทำให้ผมผิดหวังและรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เราคุ้นเคยกับการสำรองข้อมูลรายวันกับเว็บโฮสติ้งราย อื่น ๆ มากจนการขาดฟีเจอร์นี้ไปทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง
ฟังก์ชั่นนี้ฟรีเฉพาะในแพ็กเกจ Business แบบแชร์เท่านั้น (แน่นอนว่าราคาแพงกว่าแบบอื่น) หรือสามารถซื้อได้ในราคา 31 บาทต่อเดือน มันแย่มากที่ไม่ได้ให้ใช้ฟรีกับบัญชีโฮสติ้งพรีเมี่ยมแบบแชร์ แต่ถ้าลองคิดดูดี ๆ ราคาสมัครใช้งานครั้งแรกของ Hostinger นั้นถูกที่สุดในตลาดอยู่แล้ว ทางบริษัทก็ย่อมต้องหาทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้นบ้างจากฟีเจอร์บางตัว
หากคุณไม่อยากจ่ายเงินเพิ่มสำหรับบริการสำรองข้อมูล คุณยังสบายใจได้ที่ Hostinger ให้การสำรองข้อมูลฟรีทุกสัปดาห์ สำหรับผู้ใช้บริการทุกคน
ถึงมันจะไม่ดีเท่ากับการสำรองข้อมูลรายวัน แต่เอาเถอะครับ มันเป็นบริการฟรี
2.ไม่มี SSL ฟรี เย้! Let’s Encrypt พร้อมให้บริการแล้ว
อัปเดตเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2020
เย้! Hostinger เปิดตัว SSL ฟรีจาก Let’s Encrypt! ย้อนกลับไปดู ข้อดีข้อที่ 8 ก่อนหน้านี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ใบรับรอง SSL มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเว็บไซต์ของคุณ สิ่งนี้ช่วยสร้างความไว้วางใจและทำให้ผู้เข้าชมเว็บรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อซื้อสินค้าจากคุณ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ “S” อยู่ใน “https” ด้วยซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ (ลองคิดดูว่าตัวคุณเองจะกล้าทำธุรกรรมผ่านเว็บแค่ไหนหากคุณไม่เห็น “https”)
Google จะแสดงข้อความ “เว็บไซต์นี้ไม่ปลอดภัย” เมื่อโหลดเว็บไซต์ที่ไม่มี SSL ผ่านเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งทำให้มีโอกาสน้อยที่ผู้คนจะซื้อของจากเว็บไซต์ของคุณ
SSL เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มอันดับ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ด้วยเหตุนี้เราจึงให้ความสำคัญกับฟีเจอร์นี้
แพ็กเกจและฟีเจอร์ของ Hostinger
Hostinger มีแพ็กเกจหลากหลายที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกประเภท ตั้งแต่บล็อกเกอร์ ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงผู้ใช้ระดับองค์กร
โฮสติ้งแบบแชร์
โฮสติ้งในระบบคลาวด์
แพ็กเกจโฮสติ้งในระบบคลาวด์ของ Hostinger นั้นใช้งานง่ายพอ ๆ กับตัวแพ็กเกจโฮสติ้งแบบแชร์ เพียงแต่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ดูเหมือนว่าค่ายนี้จะผสมผสานฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของเว็บโฮสติ้งแบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนส่วนบุคคลหรือ VPS กับโฮสติ้งแบบแชร์จนได้ออกมาเป็นแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์ที่ยอดเยี่ยม
คุณจะเพลิดเพลินไปกับการสำรองข้อมูลรายวันฟรี SSL ฟรีตลอดชีพ การป้องกันด้วย Cloudflare ใน IP ส่วนตัว ด้วยทีมสนับสนุนที่คอยบริหารจัดการทางเทคนิคให้คุณตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน คุณแทบไม่ต้องกังวลเรื่องทางเทคนิคเลยเพราะ Hostinger จะดูแลทุกอย่างให้คุณ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ดูแลระบบจะเป็นผู้ที่จัดการงานด้านเทคนิคทั้งหมด คุณจึงไม่สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์หรือเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของคุณได้ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยเพื่อแลกกับฟีเจอร์ที่สะดวกสบายแบบนี้
ทรัพยากรของคุณจะถูกจำกัดปริมาณอย่างชัดเจนแต่ก็เป็นทรัพยากรส่วนตัวสำหรับคุณเท่านั้น (หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องแชร์ทรัพยากรกับผู้ใช้รายอื่น) และการรวมระบบเครือข่ายส่งมอบเนื้อหาหรือ CDN เอาไว้ด้วยทำให้ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์รวดเร็วราวสายฟ้าแล่บ หากคุณรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้บริการระดับนี้ คุณก็แค่ อัปเกรดจากแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ไปเป็นบัญชีเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์ได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดปัญหาเว็บไซต์ล่มระหว่างการย้ายหรือปัญหาอะไรเลย
จริง ๆ แล้ว เราค่อนข้างประทับใจกับเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์ของ Hostinger (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแพ็กเกจ Global ขับเคลื่อนโดย Google Cloud) และเราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งหากคุณต้องการใช้เว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์ !
โฮสติ้งแบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนส่วนบุคคลหรือ VPS
ผู้ที่มองหาโฮสติ้งแบบ VPS จะได้เพลิดเพลินไปกับตัวเลือก VPS ที่โดดเด่นของ Hostinger ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเร็วกว่าตัวเลือกโฮสติ้งแบบแชร์ทั่ว ๆ ไปถึง 30% โดยไม่มีปัญหาเว็บล่มเลย เราเข้าใจเลยว่า เพราะอะไร โฮสติ้งแบบ VPS ของ Hostinger จึงน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร
แพ็กเกจ VPS ของ Hostinger นั้นค่อนข้างคล้ายกับบัญชีโฮสติ้งในระบบคลาวด์ แต่ความแตกต่างหลักคือการจัดการส่วนหลังบ้านหรืองานด้านเทคนิคนั่นเอง ในขณะที่ผู้ใช้โฮสติ้งในระบบคลาวด์ไม่ต้องดูแลด้านเทคนิคเองเลย ลูกค้า VPS จะสามารถเข้าถึงรูทได้ซึ่งหมายถึงความสามารถในการปรับแต่งได้ตามต้องการมากขึ้น แต่ข้อด้อยคือการอัปเดตและการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์จะต้องดำเนินการเองทั้งหมดโดยผู้ใช้บริการ
ราคาสมัครใช้งานครั้งแรกสำหรับโฮสติ้งแบบ VPS มีราคาเพียง 122 บาทต่อเดือนและเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณต้องการบริการมากกว่าที่ได้รับจากแพ็กเกจระดับเริ่มต้น คุณสามารถอัปเกรดเป็นแพ็กเกจที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากขึ้นได้
Hostinger รับมือกับการแข่งขันได้อย่างไร
เราไม่สามารถเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นรีวิวที่ครอบคลุมครบทุกด้านได้ ถ้าไม่ได้นำแบรนด์ที่โดดเด่นรายอื่น ๆ มาเปรียบเทียบด้วย จริงไหมล่ะครับ ดังนั้น เราจึงใช้เวลาเปรียบเทียบ Hostinger กับเว็บโฮสต์อื่น ๆ เพื่อให้คุณเห็นว่าตัวเลือกไหนดีกว่าสำหรับคุณ
Hostinger Premium เทียบกับ SiteGround GrowBig
เราได้ทดสอบเว็บไซต์ทดลองกับทั้งสองค่ายนี้เพื่อวัดความเร็วโดยใช้เครื่องตรวจสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของเราเอง ผลลัพธ์ที่ได้น่าสนใจทีเดียว
มาดูกันครับ :
ก่อนที่เราจะแจกแจงผลลัพธ์ เราต้องขอบอกว่าเว็บโฮสต์ทั้งสองค่ายนี้ประสิทธิภาพสูงมาก ทั้งสองโฮสต์ได้คะแนนความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกต่ำกว่า 200 มิลลิวินาที ซึ่งเราจัดอันดับให้เป็นเว็บโฮสต์ระดับ A+ ในแง่ความเร็ว!
ในด้านความเร็ว ผมคิดว่าเราทุกคนยอมรับว่าเว็บโฮสต์ทั้งสองค่ายอยู่ในอันดับต้น ๆ โดย Hostinger มีค่าเฉลี่ย ความเร็วทั่วโลก 168.9 มิลลิวินาทีเทียบกับ 159.9 มิลลิวินาทีของ SiteGround ทั้งสองบริษัททำได้ดีเป็นพิเศษในประเทศแถบเอเชียโดยมีความเร็วเฉลี่ยต่ำกว่า 100 มิลลิวินาทีในญี่ปุ่น บังคาลอร์และสิงคโปร์
ทั้งสองค่ายทำผลงานได้ไม่ดีเท่าในเอเชียเมื่อทดสอบความเร็วในลอนดอน สหรัฐอเมริกาตะวันออก สหรัฐอเมริกาตะวันตกและเซาเปาลูโดยมีสาเหตุจากสถานที่ตั้งของศูนย์ข้อมูล (ซึ่งอยู่ในสิงคโปร์) แต่ความเร็วยังคงถือว่าดีมาก
โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าบริษัทเว็บโฮสติ้งทั้งสองแห่งนี้ตอบสนองและรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เราไม่สามารถนับได้ว่าสองค่ายนี้ดีเท่ากันเพราะความเร็วไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นเว็บโฮสต์ที่ยอดเยี่ยม
SiteGround เป็นเว็บโฮสต์ที่ให้บริการระดับพรีเมียมซึ่งรวมทุกอย่างพร้อมฟีเจอร์ที่เจ๋งมากมายและเหมาะสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กถึงใหญ่ ความยอดเยี่ยมแบบนี้ไม่ได้มาฟรี ๆ และผู้ใช้บริการจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสำหรับค่าต่ออายุ SiteGround
ส่วน Hostinger เป็นเว็บโฮสติ้งพื้นฐานที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับมือใหม่ ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการ ข้อดีของ Hostinger คือช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดเพื่อใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมโดยมีราคาสมัครใช้งานครั้งแรกที่ถูกมาก
ทั้งสองเป็นบริษัทเว็บโฮสติ้งที่ยอดเยี่ยม เร็วแรงสุด ๆ พร้อมสิทธิประโยชน์เจ๋ง ๆ มากมาย แต่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม
Hostinger เทียบกับ HostGator (โฮสติ้งในระบบคลาวด์)
Hostgator มีแดชบอร์ดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและการใช้งานง่าย ปัญหาของ
แดชบอร์ดที่ว่านี้คือมีข้อจำกัดซึ่งทำให้เราชอบ hPanel ของ Hostinger มากกว่า
แดชบอร์ด hPanel ที่ออกแบบเองของ Hostinger สบายตาและดูดีกว่าเมื่อเทียบกับ HostGator ทุกอย่างถูกจัดหมวดหมู่ไว้อย่างสวยงามและที่สำคัญที่สุดคือเราไม่รู้สึกว่าเราสูญเสียฟังก์ชั่นใด ๆ ไปเลย
นอกจากแดชบอร์ดที่ออกแบบเองแล้ว แพ็กเกจเว็บโฮสติ้งในระบบ Cloud ของ Hostinger และ Hostgator นั้นคล้ายกันมากในแง่ของความเร็วและฟีเจอร์ Hostinger Cloud มีราคาแพงกว่าเล็กน้อย (Hostinger cloud เริ่มต้นที่ 231 บาท ในขณะที่ Hostgator Cloud เริ่มต้นที่ 153 บาท) แต่ถ้าคุณเปรียบเทียบสิ่งที่คุณได้รับจาก Hostinger และ Hostgator คุณจะเห็นว่าสิทธิประโยชน์ทุกอย่างเป็นไปตามราคาที่จ่ายชนิดบาทต่อบาท
ความแตกต่างที่ชัดเจนมากที่สุดคือ IP ส่วนตัว ขณะที่ HostGator จะเสนอ IP ส่วนตัวฟรีให้เฉพาะแพ็กเกจ
ระดับสูงสุด แต่คุณจะได้รับ IP ส่วนตัวฟรีกับทุกแพ็กเกจของเว็บโฮสติ้งในระบบคลาวด์ของ Hostinger
เช่นเดียวกับการเปรียบเทียบกับ SiteGround ก่อนหน้านี้ เราต้องบอกว่า แม้ Hostinger Cloud และ HostGator Cloud จะคล้ายกันมาก แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายต่างกัน
หากคุณถามเราว่าชอบค่ายไหนมากกว่า เราต้องบอกว่าเราชอบ Hostinger Cloud มากกว่า นอกเหนือจากเป็นบริการที่ดูแลจัดการด้านเทคนิคให้ครบทุกอย่างและใช้งานง่ายกว่าแล้ว เรายังได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่ามากเมื่อได้ใช้แผงควบคุม hPanel นอกจากนี้ เรายังไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำชื่นชมทีมสนับสนุนของ Hostinger ในขณะที่ทีมสนับสนุนของ Hostgator อาจถูกตั้งคำถามในบางครั้ง
ข้อสรุป: Hostinger เป็นเว็บโฮสต์ที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่
หลังจากที่ยุ่ง ๆ กับเว็บไซต์ทดลอง เล่นกับฟีเจอร์ต่าง ๆ และสัมผัสความรู้สึกโดยรวมเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ของ Hostinger เราต้องยอมรับว่า Hostinger เป็นโฮสต์ที่สุดยอดจริง ๆ!
อินเทอร์เฟสผู้ใช้ของค่ายนี้ใช้งานง่ายและติดตั้ง WordPress ได้ภายในคลิกเดียวซึ่งสะดวกมาก (รวมถึงแอปยอดนิยมอื่น ๆ) และเวลาในการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ของค่ายนี้ก็สามารถเทียบได้กับเว็บโฮสต์ระดับ A+ ชั้นนำอื่น ๆ
เรารู้สึกว่า บริการของค่ายนี้เป็นมิตรกับมือใหม่อย่างไม่น่าเชื่อซึ่งต้องขอบคุณทีมสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม การฝึกอบรมผ่านระบบ “การสนับสนุนแบบครบวงจรจบในที่เดียว” ช่วยให้พนักงานฝ่ายสนับสนุนยินดีที่จะแนะนำคุณทีละขั้นตอนในการแก้ปัญหา
การทดสอบของเราเผยให้เห็นว่าความเร็วและประสิทธิภาพของ Hostinger นั้นเทียบเท่ากับบริการเว็บโฮสติ้งระดับพรีเมียมแต่มาในราคาที่ต่ำมาก ด้วยความครอบคลุมทั่วโลก Hostinger จึงเป็นเว็บไซต์แนะนำอันดับต้นๆของเราในหลายประเทศ เช่น อินเดีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นหรือคิดที่จะเริ่มต้นทำบล็อก คุณจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องไหนเลยเมื่อใช้ Hostinger บริการที่ยอดเยี่ยมของพวกเขารวมกับราคาที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อทำให้ค่ายนี้เป็นโฮสต์ที่มีความคุ้มค่าที่สุด หากคุณรู้สึกว่าบริการที่ใช้ยังไม่ตอบโจทย์ คุณก็เลือกอัปเกรดไปใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมได้เสมอ!
ฟีเจอร์หลัก
- ✓ ที่เก็บข้อมูล SSD
- ✓ แบนด์วิธไม่จำกัด
- ✓ hPanel
- ✓ โดเมนฟรี
- ✓ การสนับสนุนที่ดี
- ✓ Git, PHP7, ตัวติดตั้งในคลิกเดียว
แนะนำสำหรับ
- • มือใหม่
- • Joomla, Drupal, WordPress
- • ธุรกิจขนาดเล็ก – กลาง
- • บล็อกมืออาชีพ/ส่วนตัว
- • นักการตลาดตัวแทนขาย
Hostinger
?
Uptime
99.95%
ประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์
A+
ราคาเริ่มต้นที่
31 บาท*รายเดือน
- * ราคาเริ่มต้นที่น่าตกใจ
- • การสนับสนุนในภาษาท้องถิ่น
การเปิดเผยโฆษณา