Bluehost

https://www.bluehost.com/

 

tl;dr

Bluehost เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์แรกสำหรับธุรกิจหรือบล็อกของตัวเอง ขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานและการติดตั้ง WordPress อัตโนมัติทำให้ทุกอย่างง่ายไปหมด ค่ายนี้อาจจะไม่ได้ให้บริการที่ดีที่สุดหรือความคุ้มค่าที่สุด แต่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ใช้งานได้จริง เรียนรู้เพิ่มเติม.

 

รีวิว Bluehost – 7 ข้อดีและ 4 ข้อเสียของ Bluehost (ทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์แล้ว!)

 

เขียนโดย

Daren Low

อัปเดตแล้ว

December 11, 2023

 

 

หากคุณกำลังสองจิตสองใจและไม่แน่ใจว่าจะใช้ Bluehost เป็น ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง ของคุณดีหรือไม่ ไม่ต้อง กังวลนะครับเพราะคุณมาสะดุดอยู่ในหน้าที่ใช่เลย

 

ที่ Bitcatcha เราออกจะหมกมุ่นอยู่กับเว็บโฮสติ้งมากไปสักหน่อย (หมอบอกว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ)

 

เราเดินหน้าเปิดบัญชี Bluehost ของเราเองและทำการทดสอบประสิทธิภาพบางอย่างกับแพ็กเกจโฮสติ้งแบบแชร์ ซึ่งเราพร้อมที่จะนำเสนอรีวิว Bluehost ที่ชัดเจนที่สุดที่คุณจะพบบนอินเทอร์เน็ต

 

 

ก่อนที่เราจะไปดูการทดสอบประสิทธิภาพด้านต่าง ๆ เรามาทำความคุ้นเคยกับผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งรายนี้กันอีกสักหน่อย

 

เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับ Bluehost

 

 

ก่อตั้งขึ้นโดย Matt Heaton และ Danny Ashworth ที่มีอายุน้อยมากในปี 2003 Bluehost จึงอยู่ในวงการมานานแล้ว ค่ายนี้เปรียบเสมือนไดโนเสาร์ของอุตสาหกรรมนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร การอยู่มานานหมายความว่าพวกเขาได้สั่งสมความรู้เกี่ยวกับเว็บโฮสติ้งและสามารถมอบประสบการณ์ที่สุดยอดให้กับผู้ใช้

 

Bluehost เป็นผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่คนทั่วโลกรู้จักและใช้งาน โดยมีศูนย์ข้อมูลเพียงแห่งเดียวซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ศูนย์ข้อมูลนี้ให้บริการเว็บไซต์ลูกค้าทั้งหมดซึ่งมีมากถึง 2 ล้าน โดยจำนวนเพิ่มขึ้นหลายพันในแต่ละวัน!

 

ยอดฮิตจริง ๆ!

 

ค่ายนี้สร้างความประทับใจในตลาดมากเลยทีเดียวเพราะค่ายนี้สามารถดึงดูดความสนใจจากเว็บโฮสติ้งยักษ์ใหญ่อย่าง Endurance International Group ได้ในเวลาสั้น ๆ เพียง 7 ปี ซึ่ง EIG ตัดสินใจซื้อค่ายนี้เข้ามาอยู่ภายในเครือของบริษัท EIG

 

ด้วยการสนับสนุนของ EIG ทำให้ Bluehost สามารถขยายจากทีมขนาดเล็กไปเป็นขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยคนถึง 750 คน ซึ่งส่งผลให้พวกเขาสามารถให้การสนับสนุนดูแลลูกค้าได้ตลอดเวลา!

 

ยังไม่น่าประทับใจพอสำหรับคุณใช่ไหมครับ

 

ถ้าอย่างนั้น คุณรู้หรือไม่ว่า Bluehost เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง 3 รายที่ WordPress แนะนำ!

 

หากคุณสงสัยว่า เหตุใดเรื่องนี้ถึงน่าประทับใจเอามาก ๆ นั่นก็เป็นเพราะ 30% ของเว็บไซต์ทั่วโลกขับเคลื่อนโดย WordPress กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ WordPress เป็นขวัญใจของโลกอินเทอร์เน็ตและการได้รับการยอมรับขนาดนี้ก็เปรียบเสมือนภาพยนตร์ที่ได้รางวัลออสก้านั่นเอง

 

ถึงตอนนี้คุณเริ่มคุ้นเคยกับ Bluehost มากขึ้นแล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่าทำไม Bluehost จึงเป็นผู้ให้บริการเว็บ โฮสติ้งที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในความคิดเห็นของเรา!

 

 

7 เหตุผลดี ๆ ที่ควรเลือก Bluehost!

 

1. Bluehost ใช้งานง่ายจนน่าประหลาดใจ

 

หากคุณเคยสร้างเว็บไซต์มาก่อนและใช้ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่มีอินเทอร์เฟสเส็งเคร็ง คุณจะเข้าใจถึงความเจ็บปวดใจจากการลงชื่อเข้าใช้แดชบอร์ดและ…ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป

 

Bluehost ทำให้เราประหลาดใจกับขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานเอามาก ๆ เพราะหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียน เราก็เข้าสู่แดชบอร์ด และแค่คลิกคำว่า ถัดไป เพียงสองสามครั้ง WordPress ก็ได้รับการติดตั้งเสร็จแล้วและพร้อมใช้งานได้ทันที ง่ายราวกับเนรมิตรเลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม รูปภาพอาจจะพูดได้ดีกว่าเยอะ ฉะนั้น มาดูตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหลังจากลงชื่อเข้าใช้

 

 

Bluehost จะเริ่มต้นด้วยการถามชุดคำถามเกี่ยวกับประเภทของเว็บไซต์ที่คุณต้องการจะสร้าง เลือกตัวเลือกจากเมนูแบบเลื่อนลง แล้วกดปุ่ม ดำเนินการต่อ ง่ายมากเลยใช่ไหมครับ

 

 

จากนั้นระบบจะถามว่าคุณต้องการจะสร้างเว็บไซต์ประเภทใด จะเป็นบล็อก เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือเว็บไซต์เฉพาะกลุ่มที่ขายกระดาษห่อของที่มีกลิ่นหอม

 

 

ระบบจะต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะค่ายนี้ยึดผลประโยชน์สูงสุดของคุณเป็นหลัก คุณก็แค่ตั้งชื่อเว็บไซต์ของคุณ นึกถึงแท็กไลน์และระบุระดับความรู้สึกว่ารู้สึกสบาย ๆแค่ไหนกับการสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง

 

 

สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปคือ เลือกธีมที่คุณชอบและจากนั้น…

 

…WordPress จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติ! ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะติดตั้งในโฟลเดอร์ที่ไม่ถูกต้องหรือทำอะไรผิดพลาดจนยุ่งเหยิง

 

 

Bluehost จะดูแลด้านเทคนิคต่าง ๆ ให้คุณ ส่วนตัวคุณก็ใส่ใจได้เต็มที่กับการปรับแต่งเว็บไซต์และทำให้เว็บไซต์ดูสวยงาม

 

หากคุณเพิ่งหัดสร้างเว็บไซต์ ผมค่อนข้างแน่ใจว่าคุณจะไม่มีปัญหาในการสร้างเว็บไซต์ของคุณด้วย Bluehost แม้แต่พวกเราที่มีความช่ำชองกว่าเล็กน้อยก็ยังอดชื่นชมความสะดวกในการใช้แดชบอร์ดของค่ายนี้ไม่ได้เลย

 

 

จะเห็นได้เลยว่า อินเทอร์เฟส cPanel ที่สร้างขึ้นเองนั้นสวยงามแค่ไหน ไม่ดูสับสนยุ่งเหยิงเหมือน cPane ทั่วไปl

 

 

2. เร็วแรงทั่วโลกได้อย่างน่าทึ่ง!

 

thinkwithgoogle ระบุว่า ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์และระยะเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์มีบทบาทอย่างมากในการทำให้เว็บไซต์โหลดเร็ว

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยศูนย์ข้อมูลเพียง 1 แห่งที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ตอนแรกเราเลยไม่คิดว่า Bluehost จะทำได้ดีมากในการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ด้วยเครื่องมือของเรา

 

เราใช้เว็บไซต์ทดลองของเราซึ่งโฮสต์ด้วยแพ็กเกจแผนพื้นฐานของทางค่ายนี้ เราเริ่มทดสอบเวลาตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ แล้วเราก็พบว่าสิ่งที่เราคิดนั้นผิดมหันต์

 

 

ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งสัญชาติอเมริกันรายนี้ตอบสนองได้ดีเป็นพิเศษด้วยความเร็วที่เร็วกว่าที่ Google แนะนำ ไว้ที่ 200 มิลลิวินาทีในทุกประเทศยกเว้นบังกาลอร์

 

เห็นได้ชัดว่า ความเร็วสูงสุดอยู่ในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ที่นั่น แต่ความเร็วในประเทศอื่น ๆ ในอีกซีกโลก อย่างสิงคโปร์ นครซิดนีย์และญี่ปุ่นก็เจ๋งพอดู!

 

ด้วยความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกที่ 153 มิลลิวินาที Bluehost จึงเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งระดับ A ที่เราพอใจมากในการรีวิว คุณมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณจะอยู่ที่ใดในโลก Bluehost ก็สามารถให้บริการได้!

 

เอ่อ…ยกเว้นว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในอินเดีย คุณอาจต้องการดูรีวิวของเราเกี่ยวกับเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับอินเดียแทน

 

 

 

3. เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง

 

ใครที่มีแผนจะทำเว็บไซต์ e-Commerce ขนาดใหญ่หรือฟอรัมแบบ reddit คงจะดีใจที่รู้ว่า Bluehost มีเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

 

เหตุใดสิ่งนี้จึงสำคัญ?

 

การใช้เว็บโฮสติ้งแบบแชร์นั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คุณต้องใช้พื้นที่เซิร์ฟเวอร์ร่วมกับผู้ใช้รายอื่นเพื่อช่วยลดต้นทุน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจจะบังเอิญ (หรือไม่ตั้งใจ) ใช้ทรัพยากรมากเกินกว่าที่จัดสรรไว้ให้ ซึ่งหมายความว่าทุกคนที่แชร์เซิร์ฟเวอร์กับผู้ใช้รายนั้นจะประสบปัญหาเว็บไซต์ช้าลง บางครั้งเว็บไซต์ของพวกเขาอาจถึงขั้นไม่โหลดเลย

 

ด้วยเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง Bluehost จะจัดสรรให้มีจำนวนผู้ใช้น้อยลงต่อเซิร์ฟเวอร์ โดยผู้ใช้แต่ละคนจะได้รับโควต้า 300,000 ไฟล์ซึ่งหมายถึงทรัพยากรในการประมวลผลที่มากขึ้นต่อผู้ใช้ ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ที่สม่ำเสมอและเว็บล่มน้อยลงจากฝีมือของผู้ใช้ที่ไม่เกรงอกเกรงใจ !

 

แต่!

 

ไม่มีอะไรดีพร้อมไปเสียหมด

 

เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงจะใช้ได้เฉพาะกับแพ็กเกจ Pro เท่านั้น ซึ่งมีราคาสูงกว่าแพ็กเกจเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ทั้งหมดที่เหลือ

 

คุณคงเดาได้ว่า ถ้าคุณต้องการประสิทธิภาพที่ดี คุณก็ต้องยอมจ่าย

 

พูดกันอย่างตรงไปตรงมานะครับ เรามีความมั่นใจในทุกเซิร์ฟเวอร์ของค่ายนี้ เว็บไซต์ทดลองของเราเองก็โฮสต์ด้วยแพ็กเกจ Basic เท่านั้น และทั้ง ๆ ที่ใช้แค่แพ็กเกจนี้ ช่วงเวลาในการให้บริการของเว็บไซต์ทดลองยังสูงถึง 100% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2018!

 

 

หากเซิร์ฟเวอร์สำหรับโฮสติ้งแบบแชร์ยังมีช่วงเวลาให้บริการสูงขนาดนี้ เราก็คาดหวังได้เลยว่าช่วงเวลาให้บริการสำหรับเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงต้องไม่ต่ำกว่านี้แน่นอน

 

 

4. ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม

 

เมื่อเราพูดถึงความปลอดภัย เราไม่ได้หมายถึงฟีเจอร์ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยจากพวกคนไม่หวังดี หรือแฮกเกอร์

 

เรากำลังพูดถึงความปลอดภัยในแง่ของความสบายใจและการป้องกันสแปมให้ห่างไกลจากกล่องจดหมายอีเมลใหม่ล่าสุดของคุณ

 

มาดูกันในแง่ของความสบายใจก่อน

 

คุณไม่ต้องการใช้เวลาเป็นวันเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนในการปรับแต่งเว็บไซต์ธุรกิจของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ดูสมบูรณ์แบบและเหมาะที่จะได้ไปอยู่ในหน้าแรกของการแสดงผลด้วย Google แล้วกลับต้องมาเจอว่ามีพวกมือดีทำให้เว็บไซต์ทั้งหมดหายไป

 

สำหรับสิ่งนี้ Bluehost ให้บริการ CodeGuard พื้นฐานแก่ผู้ใช้ที่ราคา 93 บาทต่อเดือน

 

CodeGuard พื้นฐาน

 

ชื่อนี้ฟังดูเท่ แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นเพียงชื่อที่แปลกใหม่ที่พวกเขาคิดขึ้นมาสำหรับบริการสำรองข้อมูลรายวัน ซึ่งฟังดูไม่แย่เลย สิ่งที่ทำคือคอยติดตามตรวจสอบเว็บไซต์และฐานข้อมูลของคุณบ่อย ๆ พร้อมกับแจ้งเตือนให้คุณทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นและจะทำการสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติ

 

 

เวอร์ชั่นพื้นฐานมีพื้นที่เก็บข้อมูล 1GB การสำรองข้อมูลและการตรวจสอบรายวันและการกู้คืน 3 ครั้งต่อเดือน

 

หากคุณต้องการมากกว่านี้ CodeGuard ก็มีให้ในเวอร์ชั่น Professional, Premium และ Enterprise ด้วยเช่นกัน แต่คุณต้องเตรียมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น

 

SpamExperts

 

เราขอรับรองว่า Bluehost สามารถบอกความแตกต่างได้ว่าอะไรเป็นอีเมลปกติและอะไรคือสแปม

 

SpamExperts เป็นคำเรียกของตัวกรองอีเมลขั้นสูงโดยจะสแกนอีเมลขาเข้าเพื่อหาสแปม ไวรัส ฟิชชิงและการโจมตีอื่นๆที่มาในรูปของอีเมลจากฝีมือของนักส่งสแปม เครื่องมือนี้จะกรองอีเมลด้วยความแม่นยำถึง 99.98% โดยจะกรองอีเมลวายร้ายออกไปก่อนที่จะถึงกล่องจดหมายของคุณ

 

หลักๆก็คือ จะช่วยให้กล่องจดหมายของคุณสะอาดและปราศจากอีเมลขยะเหล่านั้น

 

SiteLock

 

ในแง่ของการปกป้องเว็บไซต์ของคุณ Bluehost มาพร้อมกับไฟร์วอลล์พื้นฐานที่ให้การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกในระดับน้อยที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการการป้องกันขั้นสูง คุณสามารถใช้บริการในรูปแบบของ SiteLock

 

SiteLock มีสามระดับ ได้แก่ Essential, Prevent และ Prevent Plus

 

ด้วย Essential คุณจะเพลิดเพลินไปกับการลบมัลแวร์อัตโนมัติ แต่จะไม่ได้ปกป้องคุณจากการโจมตี DDOS หรืออะไรที่รุนแรงประมาณนั้น

 

สำหรับ Prevent ระดับความปลอดภัยจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยการกำจัดมัลแวร์อัตโนมัติ การป้องกัน DDoS เวลาตอบสนอง 6 ชั่วโมงและ…. การเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพ เอาจริงๆผมไม่รู้ว่าการเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยอะไรบ้างแต่มันเป็นฟีเจอร์ที่ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์

 

Prevent Plus ทำทุกอย่างเหมือน Prevent แต่เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้วยการสแกนทุกวัน

 

SiteLock เป็นฟีเจอร์ที่ดี แต่ทั้งหมดนี้เป็นส่วนเสริมซึ่งหมายความว่า คุณจะต้องเจียดเงินมาจ่ายมากขึ้นเพื่อที่จะได้ใช้มัน จะว่าไป Bluehost น่าจะใจป้ำมอบความปลอดภัยอีกระดับให้กับลูกค้าฟรีไปเลย!

 

 

5. สิทธิประโยชน์มีให้อย่างไม่อั้น

 

เมื่อก่อนคุณต้องวางแผนอย่างรอบคอบเกี่ยวกับจำนวนเว็บไซต์ที่ตั้งใจจะเปิดตัว รวมถึงต้องคิดเผื่อไปถึงปริมาณทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้เพื่อให้ทุกเว็บทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ.

 

แพ็กเกจเว็บโฮสตติ้งแบบแชร์ของ Bluehost มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมายและที่เยี่ยมที่สุดคือเกือบทุกสิทธิประโยชน์มีให้ใช้อย่างไม่อั้น เรากำลังพูดถึง:

 

 

หลัก ๆ แล้ว คุณมีอิสระที่จะสร้างเว็บไซต์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ! และคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณด้วย!

 

โปรดระวังว่าการมีผู้เยี่ยมชมเว็บมากเกินไปในเวลาเดียวกันอาจใช้ทรัพยากรมากเกินไปและ Bluehost มีชื่อเสียงในการปิดใช้งานหรือลบเว็บไซต์ที่ออกนอกลู่นอกทาง

 

 

6. ให้การช่วยเหลือดูแลลูกค้ารวดเร็วมาก!

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้อารมณ์เสียได้มากที่สุดในชีวิตคือ การที่ต้องรอให้ฝ่ายช่วยเหลือดูแลลูกค้าตอบกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เว็บไซต์ของคุณต้องการความสนใจ เดี๋ยวนี้

 

ในขณะที่เรากำลังติดตั้งเว็บไซต์ทดลองของเรา เรารู้สึกดีเหลือเกินที่พบว่าฝ่ายสนับสนุนตอบกลับผ่านแชทสดอย่างรวดเร็ว เราเคยชินกับการรออย่างน้อย 15 นาทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่สนับสนุนตอบกลับผ่านแชทสด แต่ทีมสนับสนุนของ Bluehost ตอบกลับภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีเสมอ

 

เราไม่ได้ลองใช้การสนับสนุนทางโทรศัพท์หรืออีเมล แต่การตอบแชทสดอย่างรวดเร็วทำให้เราแทบไม่คิดว่าการติดต่อทางโทรศัพท์หรืออีเมลเป็นสิ่งที่จำเป็นแม้ว่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับกรณีฉุกเฉิน

 

คุณไม่ต้องกังวลกับเส้นแบ่งเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของโลกอีกด้วยเพราะทีมช่วยเหลือดูแลลูกค้าของ Bluehost พร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

 

เยี่ยมมากจริง ๆ !

 

 

7. มีของดีที่เป็นประโยชน์ให้ใช้ฟรี

 

บางบริษัทจะดึงดูดให้คุณสมัครใช้บริการของพวกเขาด้วยของฟรีแบบพื้น ๆ เรากำลังพูดถึงบริษัทที่ทำการตลาดด้วยการหยิบยกบริการปกติว่าเป็นบริการ “ฟรี” เช่น การสนับสนุน “ฟรี” ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงหรือการติดตั้ง WordPress “ฟรี”

 

คนละเรื่องกับ Bluehost เลย

 

ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งสัญชาติอเมริกันรายนี้ให้ของฟรีจริงๆซึ่งคุณจะเห็นความแตกต่างได้เลยจากตัวเลขในบัญชีธนาคารของคุณ

 

เมื่อซื้อแพ็กเกจบริการเว็บโฮสติ้งแบบแชร์ไม่ว่าจะแพ็กเกจไหน Bluehost จะมอบโดเมนฟรีให้ในปีแรก เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดขึ้น ปกติชื่อโดเมนสามารถมีราคาตั้งแต่ 8 ถึง 872 ล้านดอลลาร์ – ใช่ คุณอ่านตัวเลขไม่ผิดหรอกครับ นี่คือหลักฐาน.

 

นอกเหนือจากนั้น คุณยังจะได้รับ SSL ฟรีซึ่งตอนนี้อาจไม่มาก แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆพวกนี้ก็ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้เลยทีเดียว!

 

 

 

ข้อเสียของ Bluehost

 

ว่ากันว่ากุหลาบทุกดอกย่อมต้องมีหนาม และปรากฎว่า Bluehost มีหนามค่อนข้างเยอะเลย

 

1. Bluehost มีศูนย์ข้อมูลเพียง 1 แห่ง

 

เราพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เราประทับใจเหลือเกินกับการทำงานของศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่แค่ 1 แห่งของ Bluehost ซึ่งรวดเร็วมากและเราก็ยังรู้สึกอย่างนั้น

 

อย่างไรก็ตาม ทุกๆมิลลิวินาทีมีความหมายเมื่อพูดถึงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ และเรารู้ว่าค่ายนี้สามารถทำงานได้ดีกว่านี้ มาก ถ้ามีศูนย์ข้อมูลในทวีปอื่นๆเพื่อรองรับผู้เข้าชมที่อยู่ไกลออกไป

 

ค่ายนี้อาจจะเป็นผู้ให้บริการายหนึ่งที่มีความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกที่ดีที่สุดในบรรดาบริการเว็บโฮสติ้งทั้งหมดที่เราเคยรีวิว แต่หากผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งรายอื่น เช่น SiteGround มีศูนย์ข้อมูลในเอเชีย ก็เป็นได้ว่าเว็บไซต์จะโหลดเร็วขึ้นสำหรับผู้ชมกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ที่นั่น

 

 

2. เด็กฝึกงานที่ไม่ได้รับการฝึกอบรม

 

ผมไม่อยากจะพูดแบบนี้เพราะเราทุกคนล้วนต้องเริ่มจากที่ไหนสักแห่ง แต่คุณต้องระวังการช่วยเหลือดูแลลูกค้าจากมือใหม่อยู่เหมือนกัน

 

Bluehost ไม่ได้พยายามปกปิดว่า ทางบริษัทจ้างทีมสนับสนุนในอินเดียมารับผิดชอบงานด้านนี้ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ผมไม่ว่าอะไรตราบใดที่มันมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

 

แต่สิ่งที่ผมมีปัญหาคือ คำแนะนำที่ไม่ถูกต้องจากพนักงานฝึกหัด

 

ช่วงที่ติดตั้งเว็บไซต์ทดลอง เราได้ถามคำถามง่ายๆกับทีมสนับสนุนว่า

 

“Bluehost รับประกันช่วงเวลาให้บริการหรือไม่?”

 

ฝ่ายสนับสนุนไม่ทราบว่าการรับประกันช่วงเวลาให้บริการคืออะไร

 

แต่ไม่เป็นไรเพราะบางทีคำที่ใช้อาจมีคำแปลอย่างอื่น เราเลยอธิบายสิ่งที่เรากำลังมองหาและคำตอบของพวกเขาคือ ใช่ Bluehost รับประกันช่วงเวลาให้บริการ!

 

ดังนั้น เราจึงขอให้เขาช่วยบอกว่าเนื้อหาของการรับประกันอยู่ตรงไหน และหลังจากเรากวาดตาอ่านจนเรียบร้อย เราพบว่าผู้ให้บริการไม่ รับประกันช่วงเวลาให้บริการ.

 

โชคดีที่นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่สาธุ ขอให้พนักงานหนุ่มฝ่ายสนับสนุนคนนี้อย่าไปให้คำแนะนำผิด ๆ ในเรื่องสำคัญเลย เพราะเว็บไซต์ของพวกเราจะเสียหายหนักแน่นอน
 

Bluehost ครับ หากคุณกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่ล่ะก็ โปรดฝึกอบรมพนักงานฝึกหัดของคุณด้วยเพราะว่าเรื่องนี้ไม่สามารถยอมรับได้

 

 

3. ไม่มีการรับประกันช่วงเวลาให้บริการ

 

หลังจากพูดถึงเรื่องนี้ในประเด็นก่อนหน้า ผมก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงการไม่รับประกันช่วงเวลาให้บริการเสียด้วยเลย

 

เว็บไซต์ล่มถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับทุกเว็บไซต์ คุณจะสูญเสียโอกาสทำยอดขายหรือโอกาสได้ลูกค้าหากเว็บไซต์ของคุณหยุดทำงาน และถ้าเว็บล่มบ่อย ๆ เครื่องมือค้นหาอาจไม่แสดงเว็บไซต์ของคุณในหน้าแสดงผลการค้นหาเอาเลยก็ได้

 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมการรับประกันช่วงเวลาให้บริการจึงมีความสำคัญ

 

การรับประกันช่วยแสดงให้คุณเห็นว่าผู้ให้บริการมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานได้และยินดีที่จะชดเชยให้กับลูกค้าหากประสบปัญหาเว็บล่มมากเกินเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด

 

เรายอมรับไม่ได้เลยที่ไม่มีการรับประกันในเรื่องนี้

 

แต่ถึงจะไม่มีการรับประกัน เราก็ต้องยอมรับว่า Bluehost มีช่วงเวลาให้บริการที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ซึ่งเห็นได้จากข้อมูลสถานะการออนไลน์ที่รวบรวมมาจากเว็บไซต์ทดลองของเรา

 

ช่วงเวลาให้บริการสูงถึง 100% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2008 ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจเลยทีเดียว!

 

 

4. ขั้นตอนการชำระเงินที่สร้างความคลางแคลงใจ

 

ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ทุกคนที่อ่านบทความนี้จะต้องคุ้นเคยกับการที่พนักงานขายรถมือสองที่พยายามขายอุปกรณ์เสริมที่ไม่จำเป็นพ่วงมาด้วยเพียงเพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น

 

การซื้อสินค้ากับ Bluehost ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังติดต่อกับผู้คนประเภทนั้น

 

ในขั้นตอนชำระเงิน ระบบจะทำเครื่องหมายที่ช่องเครื่องมือ SEO และ Sitelock ให้เองโดยอัตโนมัติซึ่งจะทำให้ราคาสูงถึง 1,860 บาทต่อปี

 

 

ฟีเจอร์เหล่านี้ดีก็จริงแต่ไม่จำเป็นเลย ผู้ซื้อที่ไม่เอะใจอาจคลิกคำว่า ถัดไป และทำการซื้อโดยไม่รู้ตัวซึ่งเกิดขึ้นกับผมด้วย จงตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ยกเลิกการเลือกช่องเหล่านี้ก่อนทำการซื้อ (เว้นแต่ว่าคุณต้องการฟีเจอร์เหล่านี้จริงๆ)

 

 

แพ็กเกจและราคาของ Bluehost โฮสติ้งแบบแชร์

 

Shared hosting

 

โฮสติ้งแบบแชร์ของ Bluehost มาพร้อมกับ (แต่ไม่จำกัดเพียง) 3 แพ็กเกจ ได้แก่ Basic, Choice Plus และ Pro

 

 

เคล็ดลับสำหรับมือโปร – สมัคร 36 เดือนเพื่อเพลิดเพลินกับราคาที่ถูกลง มิฉะนั้นคุณจะต้องจ่ายเงินพอสมควรสำหรับการต่ออายุ ราคาต่ออายุ (รายเดือน) คือ 248 บาท, 465 บาทและ 744 บาทตามลำดับตั้งแต่แพ็กเกจ Basic ไปถึง Pro

 

 

โฮสติ้งแบบ VPS

 

หากคุณต้องการโฮสติ้งแบบ VPS คุณมั่นใจได้เลยว่าบริการเซิร์ฟเวอร์เสมือนส่วนบุคคลของ Bluehost ตอบโจทย์ได้แน่นอน บริการรองรับการจัดเก็บข้อมูล SSD ซึ่งช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับความเร็วแรง ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน VPS

 

แพ็กเกจมีราคาตั้งแต่ 588 – 1,860 บาทต่อเดือน

 

 

โฮสติ้งแบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว

 

แพ็กเกจการโฮสต์แบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของ Bluehost ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวได้อย่างไม่จำกัด ด้วยแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าของวงการ คุณจะเพลิดเพลินไปกับโฮสติ้งที่ยืดหยุ่นทรงพลังในราคาที่เหมาะสม

 

แพ็กเกจเว็บโฮสติ้งแบบนี้มีราคาตั้งแต่ 2,480 – 3,720 บาทต่อเดือน

 

 

 

Bluehost เทียบกับคู่แข่ง

 

Bluehost เทียบกับ SiteGround

 

เอาละ เราจะเปรียบเทียบ Bluehost กับ SiteGround ได้อย่างไร แน่นอนก็ต้องผ่านการทดสอบความเร็วเซิร์ฟเวอร์ของเรานั่นเอง มาดูกันว่าสองค่ายนี้มีประสิทธิภาพอย่างไรเมื่อเทียบกัน

 

 

จะเห็นได้ชัดเลยว่า ค่าเฉลี่ยทั่วโลกของ SiteGround เร็วกว่า Bluehost ถึง 16.1 มิลลิวินาที!

 

16.1 มิลลิวินาทีเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ หากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ (เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าการกะพริบตาครั้งเดียวใช้เวลาประมาณ 100 มิลลิวินาที) แต่อย่างที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้คือ ทุกๆมิลลิวินาทีมีค่ามากเมื่อพูดถึงเว็บโฮสติ้งและ 16.1 มิลลิวินาทีสามารถสร้างความแตกต่างได้ เยอะ เลยในแง่ความเร็วการโหลดเว็บไซต์

 

SiteGround ยังมีแต้มเหนือกว่าเมื่อพูดถึงศูนย์ข้อมูลเพราะมี 6 แห่งกระจายอยู่ใน 3 ทวีป ดังนั้น หากคุณพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้พวกเขามากที่สุด คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเวลาตอบสนองที่ช้า

 

Bluehost ยังเสียคะแนนอีกเนื่องจาก SiteGround ใช้ Supercacher และซอฟต์แวร์เสริมประสิทธิภาพเพื่อส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นสิ่งที่ Bluehost ขาดหายไป

 

 

Bluehost เทียบกับ Hostinger

 

ในแง่ของราคา Hostinger คุ้มค่ามากกว่าสำหรับเงินที่คุณจ่ายไปเนื่องจากราคาของพวกเขาต่ำกว่า มาก และมีฟีเจอร์มากกว่า

 

เว็บไซต์ทดลองของเราที่โฮสต์กับ Hostinger ใช้แพ็กเกจ Premium สำหรับโฮสติ้งแบบแชร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพียง 90 บาทต่อเดือนหากสมัครแบบ 48 เดือน

 

แพ็กเกจ Basic ของ Bluehost มีค่าใช้จ่าย 123 บาทต่อเดือนหากสมัคร 36 เดือน

 

พูดสั้น ๆ คือแพ็กเกจ Premium ของ Hostinger มีราคาต่ำกว่าแพ็กเกจ Basic ของ Bluehost

 

มาดูสิ่งที่แต่ละบริษัทนำเสนอกันครับ

 

 

ในแง่ของศูนย์ข้อมูล Hostinger มีแต้มเหนือกว่าด้วยศูนย์ข้อมูล 6 แห่งทั่วโลกซึ่งรองรับผู้เข้าชมได้ทุกที่

 

นอกจากนี้ Hostinger ยังมีการรับประกันช่วงเวลาให้บริการซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานได้ตลอดเวลา แถมยังมีทีมช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่เก่งและพูดภาษาท้องถิ่นได้

 

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราชอบอินเทอร์เฟสผู้ใช้ของ Bluehost มากกว่าของ Hostinger

 

 

บทสรุป: Bluehost ดีแต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด!

 

การที่เราไม่ได้เลือก Bluehost ให้เป็นแบรนด์เว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดไม่ได้หมายความว่าค่ายนี้ไม่ใช่ผู้ให้บริการที่ดี

 

ค่ายนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวเพราะมีความเร็วเพียงพอให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกได้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของตัวเองโหลดได้เร็วพอที่จะสร้างยอดขายที่ดีได้

 

ด้วยการใช้งานที่แสนง่ายที่สร้างประสบการณ์ที่แสนดีให้กับผู้ใช้ Bluehost จึงเป็นตัวเลือกที่ใช่เลยสำหรับ มือใหม่ การที่ค่ายนี้เป็นเว็บโฮสติ้งที่ WordPress แนะนำก็น่าจะบอกได้ถึงคุณภาพการบริการของค่ายนี้ได้

 

สิ่งหนึ่งที่เราต้องพูดถึงคือ Bluehost ยังคงใช้ cPanel ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับพวกเราที่คุ้นเคยกับการใช้งาน ทั้งนี้ cPanel ได้ขึ้นราคา ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่จึงตัดสินใจเลิกใช้ แต่จนถึงขณะนี้ดูเหมือนว่ายังไม่มีวี่แววว่า Bluehost จะเลิกใช้ cPanel

 

อย่างไรก็ตาม การที่ค่ายนี้ไม่รับประกันช่วงเวลาให้บริการทำให้เรารู้สึกแย่อยู่เหมือนกัน เนื่องจากผู้ให้บริการรายใหญ่ส่วนใหญ่ยอมชดเชยให้ไม่ว่าจะรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หากเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการหยุดทำงานในช่วงเวลาหนึ่ง

 

ความจริงที่ว่าบริษัทผู้ให้บริการส่วนใหญ่เต็มใจที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ตามสัญญา เป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้ได้มากทีเดียว แต่ Bluehost ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยไม่มีการรับประกันช่วงเวลาให้บริการ…จะเป็นอย่างไรหากเว็บไซต์ที่โฮสต์กับค่ายนี้หยุดทำงานตลอดทั้งสัปดาห์

 

ใคร ๆ ก็สัญญาได้ว่าจะ “พยายามรักษาเครือข่ายและเวลาให้บริการของเซิร์ฟเวอร์” แต่มันจะเป็นคำสัญญาที่ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง หากคนที่ให้สัญญาไม่ยึดตามคำพูดและไม่ยอมควักเงินจ่ายเวลาที่บริการเกิดปัญหา

 

อย่างไรก็ตาม เราควรชื่นชมในสิ่งที่ดี เราอยากจะบอกว่าเราไม่เคยมีปัญหากับช่วงเวลาให้บริการของ Bluehost เลย อันที่จริงแล้ว ช่วงเวลาให้บริการในเว็บไซต์ทดลองของเราสูงถึง 100% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2018!

 

ความเห็นของคนตัวเล็ก ๆ อย่างเราคือ Bluehost เป็นผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ค่ายนี้อาจจะไม่เร็วที่สุดและอาจไม่ดีที่สุด แต่หากคุณต้องการโฮสต์เว็บไซต์พื้น ๆ ที่ไม่มีอะไรซับซ้อน ค่ายนี้มีเครื่องมือทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ