เนื้อหาของ Bitcatcha เกิดจากการสนับสนุนของผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากพันธมิตร เรียนรู้เพิ่มเติม

 

tl;dr

หากคุณกำลังคิดที่จะเปิดเว็บไซต์ส่วนตัวที่สร้างขึ้นได้อย่างรวดเร็วบน Squarespace คำแนะนำของผมคือไปหาดูที่อื่นเพราะคุณจะต้องจ่ายในราคาแพงกว่าสำหรับบริการมาตรฐานทั่วไป Squarespace เหมาะกับเว็บไซต์ ธุรกิจและอีคอมเมิร์ซ เป็นหลักโดยทรัพยากรการใช้งานส่วนใหญ่ดูเหมือนจะบ่งบอกถึงจุดเด่นในด้านนี้ เรียนรู้เพิ่มเติม

 

รีวิว Squarespace – 7 ข้อดีและ 4 ข้อเสีย!

 

เขียนโดย
Timothy Shim
อัปเดตแล้ว
December 11, 2023

 

Squarespace ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายผ่านอินเทอร์เฟสแบบลากแล้ววาง บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2003 และได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ชั้นนำบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน โดยมีเว็บไซต์หลายล้านเว็บเปิดตัวผ่านแพลตฟอร์มนี้ ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 800 คนในสามพื้นที่ ได้แก่ นครนิวยอร์ก พอร์ตแลนด์และดับลิน

 

สิ่งที่ทำให้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่าง Squarespace มีความโดดเด่นคือ มันไม่เพียงแค่เพิ่มขีดความสามารถให้กับตัวบุคคลเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กด้วยการให้พลังในการสร้างเว็บไซต์แม้จะมีความรู้ทางเทคนิคอย่างจำกัด ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเทคนิคและสามารถทุ่มเทความสนใจไปที่การสร้างเว็บไซต์ให้สวยงามน่าดึงดูด รวมถึงด้านต่าง ๆ ที่สำคัญสำหรับธุรกิจหลักของตนเอง

 

แม้ว่าจะมีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์มากมายเหลือเกินให้เลือกใช้ในปัจจุบัน แต่ผมพบว่าแต่ละแห่งมีความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร บางกรณีไม่เห็นความแตกต่างชัดเจน แต่บางกรณีเห็นความต่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น Squarespace โดดเด่นในด้านอีคอมเมิร์ซ

 

ผมไม่ได้หมายความอันไหนดีกว่าอันไหนนะครับ เพียงแต่ต้องมีการประเมินว่าแต่ละแห่งตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่

 

 

7 สิ่งที่ Squarespace โดนใจเรา

 

1. ความเร็วเว็บไซต์ที่ดี

 

การทดสอบ Squarespace Webpagespeed

ทดสอบความเร็วจากเซิร์ฟเวอร์สิงคโปร์ – ดูผลลัพธ์ทั้งหมด

 

ผมคาดหวังผลการทดสอบความเร็วที่ค่อนข้างดีจากเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่และ Squarespace ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเสียทีเดียว แม้ว่าผมจะแปลกใจนิดหน่อยที่อันดับไม่ได้สูงไปกว่าที่ผมได้จากการทดสอบ จากการทดสอบด้วย Webpagespeed พบว่าความเร็วต่ำไปเล็กน้อยในแง่ของการได้รับข้อมูลหลังการเรียกหา (Time to Firsty Byte) แต่นอกเหนือจากนั้น ทุกอย่างสอบผ่านหมด

 















US (W) US (E) ลอนดอน สิงคโปร์
81 มิลลิวินาที 38 มิลลิวินาที 96 มิลลิวินาที 247 มิลลิวินาที














เซาเปาลู บังกะลอร์ ซิดนีย์ ญี่ปุ่น
157 มิลลิวินาที 288 มิลลิวินาที 273 มิลลิวินาที 393 มิลลิวินาที

ความเร็วเฉลี่ย: 196.6 มิลลิวินาที

 

เว็บไซต์ทดลองของผมได้คะแนน ‘A’ ในการทดสอบของ Bitcatcha ซึ่งก็ทำให้รู้สึกแปลกใจอีกครั้งเพราะคิดว่าผลน่าจะดีกว่านี้ จากผลทดสอบของ Bitcatcha (ดูด้านล่าง) ผมเดาว่า น่าจะมีการทุ่มเททรัพยากรไปที่เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกามากเป็นพิเศษซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงเล็กน้อยในภูมิภาคเอเชีย

 

หากคุณดูผลการทดสอบ คุณจะสังเกตได้ว่าผลการทดสอบกับเซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคเอเชียทั้งหมดช้ากว่าที่ทดสอบกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาหรือสหภาพยุโรป ซึ่งจุดนี้เป็นประเด็นที่น่าคิดและพึงระลึกไว้เสมอ

 

 

2. เทมเพลตที่หลากหลาย

 

ด้วยเทมเพลตที่มีให้เลือกถึง 67 แบบ คุณน่าจะหาเทมเพลตที่คุณชอบได้ไม่ยาก หลังจากนั้นคุณยังสามารถปรับแต่งเทมเพลตได้ตามใจชอบอีกต่างหาก จริง ๆ แล้ว การมีเทมเพลต 67 แบบให้เลือกถือว่าไม่ได้มากจนโดดเด่นอะไร แต่ถ้าคุณมองให้ลึกลงไปในเทมเพลต คุณจะพบสิ่งที่ Squarespace มีไว้ให้คุณ

 

เคล็ดลับคือ การมองให้ทะลุแบบหรือลวดลายที่ทำไว้ให้แล้วในเบื้องต้นและมองให้ลึกลงไปถึงเค้าโครงของเทมเพลต สิ่งที่ Squarespace มีให้คือคุณสามารถผสมผสานเลย์เอาต์แบบต่าง ๆ ที่ทำไว้แล้วเข้าด้วยกันได้หลากหลายรูปแบบตามใจชอบ ค่ายนี้มีให้เกือบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเลย์เอาต์แบบรูปเดียวเต็มหน้าที่ใช้วิธีเลื่อนขึ้นลงตามแนวตั้งเพื่อดุรูปทั้งหมดไปจนถึงเลย์เอาต์แบบมีรูปเล็ก ๆ รวมกันอยู่ในหน้าเดียว ตัวเลือกมีให้แบบไม่อั้น

 

ลองดูสองเทมเพลตด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง

 

ความแตกต่างของเทมเพลต Squarespace

 

ในแง่หนึ่งคุณก็สามารถเลือกที่จะใช้เลย์เอาต์แบบบล็อกเดียวเต็มหน้าซึ่งเป็นอะไรที่เรียบง่าย อีกด้านคุณอาจจะชอบหน้าที่ดูซับซ้อนกว่าและประกอบด้วยบล็อกมากมายหลายขนาด แต่นี่เราแค่พูดกันถึงหน้าหลักเท่านั้นนะครับ คุณยังสามารถเลือกเทมเพลตรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกมากมายสำหรับใช้กับหน้าที่รอง ๆ ลงมา

 

ดังนั้น หากคุณกำลังมอง Squarespace อยู่ละก็ ขอให้มองข้ามจำนวนเทมเพลตไปซ่ะ แล้วคุณจะเข้าใจได้ว่าเทมเพลตทั้งหมด 67 แบบนี้คือความพยายามที่จะนำเสนอนี่นิดนั่นหน่อยแต่เมื่อจับมาผสมผสานกัน คุณก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ สิ่งที่คุณต้องพยายามคิดให้มากคือจะผสมผสานยังไงให้ออกมาสวยงามอลังการต่างหาก ซึ่งผมคิดว่านี่คือจุดเดียวที่ค่ายนี้มองข้ามไปมากที่สุดในการออกแบบเทมเพลต

 

อย่างไรก็ตาม บล็อกทั้งหมดที่ถูกออกแบบมาในเลย์เอาต์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการตามหาส่วนที่ต้องการเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โปรดดูที่ “ประเภทหน้าต่าง ๆ” ในหัวข้อถัดไป

 

 

3. อินเทอร์เฟสแบบลากและวาง

 

อินเทอร์เฟซแบบลากและวางที่ Squarespace ใช้ออกจะยุ่งยากเล็กน้อย ซึ่งผมพบว่ามันมีทั้งด้านบวกและด้านลบ สำหรับมือใหม่แล้ว แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการทำความคุ้นเคย แต่มันก็มีฟีเจอร์ดี ๆ บางอย่างซ่อนอยู่

 

เป็นมิตรกับอุปกรณ์เคลื่อนที่

 

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของค่ายนี้ถูกตั้งค่ามาให้เป็นมิตรกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โทรศัพท์มือถือ เทมเพลตก็ด้วยเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อคุณเลือกแบบเทมเพลตได้แล้วและเริ่มลงมือปรับแต่ง คุณจะอุ่นใจได้เลยว่าเลย์เอาต์จะปรับเปลี่ยนอย่างไม่มีสะดุดไม่ว่าจะปรากฏบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ชนิดไหน

 

น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถปรับแต่งให้เป็นเวอร์ชั่นเฉพาะอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้น คุณจะต้องปรับตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อยเพื่อให้มันลงตัวในแบบที่คุณต้องการ ข้อดีของจุดนี้คือคุณไม่จำเป็นต้องแยกปรับแต่งเว็บไซต์ทีละเว็บ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเครื่องมือปรับแต่งได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม คุณควรจะคุมหน้าเว็บไซต์ไม่ให้แน่นเกินไปเพราะไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นปกติหรือเวอร์ชั่นที่ปรากฏบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การทำให้หน้าเว็บไซต์แน่นเกินไปจะส่งผลให้การโหลดช้าลง หน้าที่หนักกว่าย่อมใช้เวลาโหลดนานกว่า ผมรู้สึกประทับใจที่เห็น Squarespace คงคำแนะนำไว้ที่ต่ำกว่า 5MB ต่อหน้าซึ่งก็ถือว่าไม่น้อย

 

การควบคุมระดับสูง

 

เมื่อคุณคุ้นเคยกับแนวคิดแบบสำเร็จรูปแล้ว คุณจะรู้เลยว่าการสร้างเว็บไซต์ของคุณเป็นเพียงแค่การเชื่อมต่อบล็อกเหล่านี้เข้าด้วยกันเท่านั้นเอง คุณต้องการฝังวิดีโอหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่วางบล็อกวิดีโอเข้าไป หากมันไม่ใช่ตำแหน่งที่คุณต้องการ ก็แค่ลากไปรอบ ๆ จนกว่าจะเจอตำแหน่งที่คุณต้องการ แล้วค่อยวางบล็อกนั้นไว้ในตำแหน่งนั้น

 

ลองดูตัวอย่างเลย์เอาต์สองแบบที่ผมแสดงไว้ด้านล่าง การจัดเรียงบล็อกเสียใหม่ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีและไม่ใช่จับเรียงกันได้เพียงสองแบบนี้เท่านั้น คุณสามารถลากทั้ง 4 บล็อกมาเรียงกันแบบไหนก็ได้ตราบใดที่มันดูดีสำหรับคุณ!

 

ตัวเลือกเค้าโครง Squarespace

 

วิดเจ็ตที่มีประโยชน์

 

ระบบบล็อกของ Squarespace ที่ผมได้พูดถึงก่อนหน้านี้ทำงานเหมือนวิดเจ็ตของ WordPress แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญอยู่เหมือนกัน ตำแหน่งวิดเจ็ตของ WordPress จะเปลี่ยนแปลงได้เท่าที่ธีมนั้น ๆ ยอมให้ทำได้ แต่วิดเจ็ตใน Squarespace สามารถวาง ย้ายหรือปรับขนาดได้ตามที่คุณต้องการทุกอย่าง

 

วิดเจ็ตเหล่านี้ยังช่วยขยายการทำงานของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย วิดเจ็ตบางอย่างที่คุณเลือกใช้สามารถเพิ่มหน้าอภิปราย รายชื่อลิงก์ต่าง ๆ แกลเลอรี่รูปภาพหรือแม้แต่ตัวเชื่อมฟีด Twitter

 

นอกเหนือจากวิดเจ็ตของตัวเองแล้ว Squarespace ยังรองรับวิดเจ็ตของบุคคลที่สามหลายตัวที่เสริมการทำงานของเว็บไซต์ อย่างเช่น คุณสามารถเชื่อมโยงไปยังร้านค้า Etsy ของคุณหรือใช้ประโยชน์จาก Google Translate เพื่อให้เนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณสามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษา

 

แม้ว่า Squarespace จะมีรายชื่อวิดเจ็ตที่ตัวเองรองรับ แต่ก็ไม่ได้หมดแค่นั้น หากบริการของบุคคลที่สามที่คุณต้องการใช้มีวิดเจ็ต HTML หรือโค้ด Javascript ที่ต้องเอามาฝัง ก็มีโอกาสที่คุณจะใช้ได้เหมือนกัน

 

สิ่งที่คุณต้องทำคือใช้ประโยชน์จากโปรแกรมโค้ดบล็อกสักโปรแกรม (เลือกดูว่าโค้ดบล็อกเฉพาะงานเหล่านั้นมีประโยชน์แค่ไหนยังไง) ซึ่งคุณจะเห็นผลดีทีเดียว แต่โปรดทราบไว้ว่า Squarespace ไม่สนับสนุนการดัดแปลงในลักษณะนี้ ดังนั้น คุณจะต้องอาศัยการเข้าไปหาข้อมูลตามฟอรัมหรือความช่วยเหลือจากภายนอกหากคุณประสบปัญหา

 

เทมเพลตแบบถอดเปลี่ยนได้!

 

เครื่องมือปรับแต่งอาจจะยุ่งยากเล็กน้อยแต่ก็มีประสิทธิภาพมากทีเดียว สิ่งนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเนื่องจากคุณสามารถสลับเทมเพลตได้ ลองนึกภาพดูสักนิดนะครับ คุณกำลังออกแบบเว็บไซต์ไปได้ครึ่งทางแล้วจู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ

 

คุณสามารถเปลี่ยนเทมเพลตได้เลย แล้วดีไซน์ก็จะเปลี่ยนไปโดยคงเนื้อหาของคุณเอาไว้! เจ๋งมากเลยใช่ไหมครับ ดีกว่าที่คุณจะต้องติดอยู่กับเทมเพลตเดิมและต้องแก้ใหม่ทุกครั้งที่คุณอยากจะเปลี่ยนหน้าตาเว็บไซต์เพื่อให้ดูสะดุดตาและให้อารมณ์มากขึ้น

 

สิ่งนี้อาจจะดูเหมือนไม่ใช่ฟีเจอร์ที่โดดเด่น แต่ผมเองได้เจอเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่จำกัดการย้ายเนื้อหาข้ามเทมเพลตซึ่งเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและน่าหงุดหงิดมาก เป็นฟีเจอร์ธรรมดาก็จริงแต่ช่วยได้เยอะเลย…

 

ประเภทหน้าเพจต่างๆ

 

ฟีเจอร์หลักอีกอย่างของเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของค่ายนี้คือ การช่วยจัดระเบียบหรือโครงสร้างเว็บไซต์ หน้าเพจเป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นเว็บไซต์และอาจมีหน้าเพจหลากหลายประเภท สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเว็บไซต์เพิ่มเติมเองได้

 

ตัวอย่างเช่น ปกติคุณจะมีหน้าเพจมาตรฐานซึ่งประกอบด้วยข้อความและองค์ประกอบอื่น ๆ แต่คุณจะเรียกใช้สิ่งที่เรียกว่า “คอลเลกชั่น” ได้อีกด้วย หน้าเหล่านี้เป็นหน้าที่สร้างขึ้นมาสำหรับการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่น แกลเลอรี่รูปภาพ

 

หน้าเพจเหล่านี้ถูกจัดให้เป็นระเบียบโดยหน้าสารบัญซึ่งเป็นหัวใจหลักของเว็บไซต์ของคุณ หน้าสารบัญช่วยให้คุณจัดระบบระเบียบหน้าเพจอื่น ๆ ทั้งหมดเข้าด้วยกันอย่างมีโครงสร้างที่เป็นเอกภาพซึ่งช่วยให้เปิดดูหน้าเพจต่าง ๆ ได้ง่าย

 

พบกับฟีเจอร์การเผยแพร่อื่นๆ

* เว็บไซต์ที่ปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่และการชำระเงิน

 

 

4. อนุญาตให้นำเข้า/ส่งออกข้อมูล

 

รองรับการส่งออก Squarespace

 

สิ่งนี้อาจจะเป็นปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดที่ผมชอบ Squarespace ซึ่งมันแตกต่างจาก Wix ที่หวงลูกค้าเอาไว้โดยไม่อนุญาตให้ส่งออกเว็บไซต์ แต่ Squarespace รองรับผู้ใช้ที่ต้องการทำสิ่งนี้

 

จริงอยู่เนื้อหาบางส่วนเท่านั้นที่จะส่งออกไปได้ แต่ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลเนื่องจากการส่งออกทุกอย่างจะต้องประสบกับความยุ่งยากซับซ้อน สิ่งสำคัญคือคุณสามารถย้ายเนื้อหาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ตัวอย่างเช่นคุณสามารถส่งออกเนื้อหาของคุณไปยังเว็บไซต์ WordPress ได้

 

ผมคิดว่านั่นเป็นทางออกที่สมเหตุสมผลกว่ามากและแสดงให้เห็นว่า Squarespace มั่นใจในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เมื่อพิจารณาจากมุมมองทางธุรกิจแล้ว วิธีนี้ย่อมดีกว่าต้องติดอยู่กับผู้ให้บริการเพียงรายเดียว

 

รายการที่จะไม่สามารถส่งออกได้ (เช่น บล็อกวิดีโอ บล็อกผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ) ส่วนใหญ่จะถูกจำกัดด้วยประเด็นทางเทคนิค

 

 

5. เป็นมิตรกับอีคอมเมิร์ซ

 

จากฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Squarespace มี บางทีนี่อาจเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุด เมื่อพิจารณาจากจุดยืนในการกำหนดราคาที่ดูเหมือนตั้งใจจะกันเว็บไซต์ส่วนบุคคลออกไป Squarespace มองเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในระดับที่แตกต่างจากค่ายอื่นอย่างน่าประหลาดใจ

 

แน่นอนว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเพราะว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมักจะมีสิ่งที่คนต้องการแตกต่างกัน เช่นตัวเลือกการชำระเงิน ระบบสินค้าคงคลัง ระบบภาษีและคูปอง และบัญชีลูกค้า สิ่งที่โดนใจเป็นพิเศษคือไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสำหรับการขายผ่านอีคอมเมิร์ซและไม่จำกัดจำนวนผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถขายได้

 

นี่เป็นแนวทางที่แตกต่างนิดหน่อยเมื่อเทียบกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่มีความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆซึ่งมักจะพยายามหารายได้จากทุกช่องทางที่เป็นไปได้ Squarespace เน้นให้เครื่องมือทางการตลาดกับลูกค้าอีคอมเมิร์ซซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดที่ค่ายนี้ให้ความสำคัญ

 

การวิเคราะห์ Squarespace

 

ค่ายนี้ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งช่วยให้เจ้าของธุรกิจไม่พลาดข้อมูลสำคัญและสามารถปรับตัวให้ทันท่วงที

 

มาลงรายละเอียดกันสักนิดเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Squarespace ให้คุณปรับแต่งกระบวนการชำระเงินทั้งหมดสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ นั่นหมายความว่าคุณสามารถทำอะไรหลายอย่างเพื่อส่งเสริมการขายในแบบของคุณ เช่น คุณสามารถแสดงข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการให้บริการแก่ลูกค้า เก็บรวบรวมข้อมูล หรือแม้แต่กระตุ้นให้สมัครรับบริการหรือจดหมายข่าว!

 

คุณสามารถควบคุม “กระบวนการขาย” ได้ทุกกระเบียดนิ้วซึ่งรวมไปถึงกิจกรรมหลังการขายด้วย เช่น ขอให้ลูกค้าตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับกระบวนการซื้อขาย หรืออะไรก็ตามที่คุณอาจจะต้องการเพื่อนำมาปรับปรุงบริการหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ

 

สิ่งอื่น ๆ ที่ค่ายนี้มีไว้คอยสนับสนุน ได้แก่

 

  • บัตรของขวัญ
  • การขายและส่วนลด
  • คำสั่งซื้อ
  • การส่งสินค้า
  • ภาษี
  • เคล็ดลับ
  • และอื่นๆ!


 

พูดได้เต็มปากเลยว่า Squarespace จัดเต็มด้านอีคอมเมิร์ซ เรียกว่าชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไงแล้ว

 

 

6. ดูแลช่วยเหลือลูกค้าดีเยี่ยม

 

จากประสบการณ์แย่ ๆ ที่ผมเจอมาจากบริการช่วยเหลือดูแลลูกค้าของค่ายอื่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจกึ่งดีใจที่ Squarespace มีช่องทางการติดต่อหลายช่องทาง ปัจจุบันผู้ให้บริการจำนวนมากใช้ระบบบัตรคิวซึ่งดีในแง่ของความเป็นระบบ แต่มักจะช้าจนเหนื่อยใจเลยครับ

 

หากต้องการติดต่อกับ Squarespace คุณสามารถส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาทั้งวัน (หรือทั้งคืน) หรือติดต่อผ่านทาง Twitter ที่สำคัญที่สุดคือค่ายนี้มีการสนับสนุนผ่านการแชทสด การแชทสดมักจะเป็นวิธีการขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วมาก ค่ายนี้ยังมีเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าอยู่ในนิวยอร์ก พอร์ตแลนด์และดับลิน

 

ช่วงเวลาแชทสดค่อนข้างจำกัดนิดหน่อย นั่นคือระหว่าง 8.00 น. ถึง 20.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออกในทวีปอเมริกาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่นั่นก็ถือว่ามากแล้วสำหรับวงการนี้ซึ่งมักจะไม่ใส่ใจอย่างเต็มที่กับการบริการลูกค้า

 

โปรดจำไว้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนของ Squarespace จะให้ความช่วยเหลือเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทหรือปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เท่านั้น เจ้าหน้าที่จะไม่รับให้คำแนะนำเกี่ยวกับ SEO หรือช่วยเหลือเกี่ยวกับโค้ดของคุณเองหรือบริการของบุคคลที่สาม

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการช่วยเหลือดูแลลูกค้าเท่านั้น เพราะ Squarespace ยังมีฐานความรู้ที่ครอบคลุมกว้างขวางสำหรับให้ผู้ใช้บริการได้อ่านเพื่อช่วยเหลือตนเอง ซึ่งรวมถึงไดเร็กทอรีประเภทต่าง ๆ ที่ค้นหาได้ง่ายและวิดีโอสอนด้วย

 

วิดีโอไม่ได้มีเพียงวิดีโอสอน “วิธีทำ” เท่านั้น แต่ยังมีวิดีโอเน้นให้คำแนะนำอย่างเช่นแนวทางปฏิบัติที่ดีในการออกแบบ พูดจริง ๆ นะครับ หัวข้อบางอย่างดีมาก ๆ และผมขอแนะนำให้คุณลองสำรวจดูวิดีโอต่าง ๆ แม้ว่าคุณจะยังไม่แน่ใจว่าคุณจะสมัครใช้บริการหรือไม่

 

 

7. เชื่อมต่อ G Suite

 

หากคุณกำลังเริ่มเว็บไซต์ใหม่โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ Squarespace มีความร่วมมือกับ Google ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก G Suite ได้ หากคุณเลือกใช้ตัวเลือกนี้ คุณสามารถใช้อีเมล ปฏิทิน ไดรฟ์และฟังก์ชันอื่น ๆ ของ Google (แน่นอนว่ากำหนดเองได้) ผ่านบัญชี Squarespace ของคุณ

 

ไม่ว่าคุณจะใช้งานด้านไหน การเชื่อมต่อล้วนราบรื่นไร้ที่ติโดยที่คุณจะชำระเงินผ่านใบแจ้งหนี้และการเรียกเก็บเงินของ Squarespace ซึ่งสะดวกมากเหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว จำไว้ว่า G Suite ใช้งานได้กับบัญชี Squarespace รุ่นใหม่เท่านั้น (หมายถึงบัญชี Squarespace ที่สมัครใช้หลังปี 2012) ส่วนบัญชี Squarespace 5 (ก่อนปี 2012) ไม่สามารถเชื่อมต่อ G Suite ได้

 

 

สิ่งที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับ Squarespace

 

1. ไม่มีแพ็กเกจฟรี

 

Squarespace ให้คุณทดลองใช้ฟรีได้ 14 วันซึ่งรวมถึงการลองใช้เครื่องมือปรับแต่งด้วย นั่นหมายความว่าคุณสามารถสมัครและสร้างเว็บไซต์จากเทมเพลตได้ สามารถแก้ไขตัดต่อได้มากเท่าที่คุณต้องการเป็นเวลา 14 วัน หลังจากนั้นคุณจะต้องเลือกว่าจะสมัครใช้งานจริงหรือเลิกใช้บริการ

 

หากคุณไม่อยากควักกระเป๋าสมัครแพ็กเกจแบบเสียเงิน เมื่อการทดลองใช้เว็บไซต์ของคุณสิ้นสุดลงและถูกล็อก คุณจะไม่สามารถแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งได้อีกต่อไป

 

 

2. เครื่องมือปรับแต่งยุ่งยากเล็กน้อย

 

ปกติเครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบลากและวางส่วนใหญ่และ/หรือเครื่องมือปรับแต่งมักจะใช้งานง่าย เพราะท้ายที่สุดนั่นคือหนึ่งในจุดขายที่สำคัญของผู้ให้บริการ ผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ดหรือการออกแบบที่จำกัดล้วนต้องพึ่งพาเครื่องมือที่ใช้งานง่ายเหล่านี้ในการสร้างเนื้อหาของตัวเอง หรือแม้แต่ผู้ที่มี ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยก็อาจจะทำได้เช่นกัน

 

บางคนอาจจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำผิดเลย แต่อย่างน้อยคุณก็ควรพยายามลองทำดูใช่ไหมล่ะครับ

 

หัวใจสำคัญในการสร้างอินเทอร์เฟสผู้ใช้ที่ใช้คือต้องใช้งานง่ายชนิดไม่ต้องคิดอะไรเลย นั่นหมายความว่า คนส่วนใหญ่ควรจะสามารถใช้งานได้เพราะการออกแบบคล้ายกับที่ใช้กันอยู่แล้วหรือง่ายชนิดที่ว่าแค่ใช้สามัญสำนึกก็ใช้งานได้

 

น่าเสียดายที่แม้ว่าเครื่องมือปรับแต่ง Squarespace จะมีประโยชน์ แต่มันไม่ได้ใช้งานง่ายขนาดนั้น

 

นี่คือตัวอย่างสองสามตัวอย่างครับ

 

ก. เมื่อคุณเลือกเทมเพลตแล้ว คุณจะเข้าสู่หน้าปรับแต่งแก้ไข ? ผมใส่เครื่องหมายคำถามไว้เพราะคุณไม่สามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณจากหน้านี้ได้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันดูเหมือนจะเป็นหน้าสำหรับการบริหารจัดการเว็บไซต์เสียมากกว่า

 

ข.หากคุณต้องการเริ่มแก้ไข คุณไม่สามารถเพียงแค่คลิกหรือดับเบิลคลิกตรงจุดที่คุณต้องการแก้ไขแล้วก็แก้ไขได้เลย คุณต้องคลิกตรงจุดนั้นค้างไว้ แล้วมองหากล่องข้อความที่มีตัวเลือกไว้ให้สองสามตัวเลือก คุณก็เลือกจากตรงนี้ว่าต้องการทำอะไร

 


ปัญหาตัวแก้ไข Squarespace

 

ค. หากคุณดับเบิลคลิกในบางจุด ระบบจะแสดงเครื่องมือปรับแต่งแก้ไขแบบเต็มหน้าขึ้นมาซึ่งคุณสามารถแก้ไขปรับแต่งองค์ประกอบหรือข้อความต่าง ๆ ที่ปรากฏได้ทั้งหน้า แต่ปัญหาคือคุณต้องเดาว่าจะดับเบิ้ลคลิกที่ตรงไหนเครื่องมือนี้จึงจะปรากฏขึ้นมา

 

 

3. ปรับแต่ง SEO ได้อย่างจำกัด

 

SEO เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเว็บไซต์ มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาจัดอันดับและดัชนีเว็บไซต์เพื่อดึง ผู้อ่านเข้าสู่เนื้อหาของคุณ เครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำหรับยุคนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก เรียกว่าผิดพลาดอย่างมหันต์เลยทีเดียวหากมีตัวช่วยจัดการ SEO สำหรับเว็บไซต์แค่นิด ๆ หน่อย ๆ

 

สิ่งที่คุณทำได้บน Squarespace ในแง่ของ SEO ก็มีแค่การแก้ไขชื่อเว็บไซต์และคำอธิบายอย่างย่อ แค่นี้เองจริง ๆ คุณไม่สามารถปรับแต่งคีย์เวิร์ดของเนื้อหา คุณไม่สามารถแท็กแต่ละกลุ่มแยกออกจากกัน คุณแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย

 

Squarespace จำกัด การปรับแต่ง SEO

 

 

 

4. ทำงานกับ CDN ของบุคคลที่สามได้ไม่ดี

 

แม้ว่าจะมีการร้องเรียนจำนวนมากว่าระบบเครือข่ายในการส่งข้อมูลหรือ CDN ที่ Squarespace ใช้อยู่มีปัญหาในบางด้านและได้รับการเสริมประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควร แต่ในปี 2018 บริษัทกลับตัดสินใจยุติการให้ความช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่พยายามเชื่อมต่อบัญชีกับ CloudFlare

 

คำอธิบายอย่างเป็นทางการของทางบริษัทสำหรับเรื่องนี้คือ ตัวเลือกที่บริษัทให้มาดีกว่า

 

ตัวเลือกในตัวของ Squarespace

 

เรื่องนี้อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่สิ่งที่ผมติดใจคือการที่ผู้ให้บริการเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของผู้ใช้ แถมยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าตัวเลือกของทางบริษัทดีกว่าโซลูชันของบริษัทซึ่งเป็นผู้ให้บริการ CDN อันดับหนึ่งของโลกซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ๆ

 

 

แพ็กเกจ Squarespace

 

ผมเข้าใจว่าในฐานะที่ทำธุรกิจ Squarespace ย่อมต้องการรายได้ ถึงที่สุดแล้วบริษัทก็ต้องการเงินเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดธุรกิจต่อไป อย่างไรก็ตาม อะไรหลาย ๆ อย่างของ Squarespace ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มากไปสักหน่อย

 

สำหรับผู้ใช้บริการหน้าใหม่ แพ็กเกจพื้นฐานที่สุด (ส่วนบุคคล) สนนราคาอยู่ที่ 372 บาทต่อเดือนในกรณีที่คุณยินดีจ่ายไปเลยครั้งเดียวสำหรับการสมัครใช้แบบรายปี แต่ถ้าคุณคิดจะใช้แพ็กเกจส่วนบุคคลแบบจ่ายรายเดือน ค่าใช้จ่ายจะตกเดือนละ 496 บาท

 

ส่วนบุคคล
ธุรกิจ
ขั้นสูง

ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
ไม่มี
3%
ไม่มี

ระบบบัญชีของ INTG
ไม่มี
ไม่มี
มี

ผู้มีสิทธิจัดการเนื้อหาเว็บไซต์
2
ไม่จำกัด
ไม่จำกัด

สินค้าบน Instagram
ไม่มี
ไม่มี
มี

กู้คืนรถเข็นอัตโนมัติ
ไม่มี
ไม่มี
มี

ราคา/เดือน
372 บาท*
558 บาท*
1,240 บาท*


*ราคาเฉลี่ยต่อเดือนสำหรับสมาชิกรายปี

 

ด้วยราคาประมาณนี้ สิ่งที่คุณจะได้รับคือสิ่งที่ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งโดยเฉลี่ยทั่วไปเสนอให้ เช่น แบนด์วิดธ์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ใบรับรอง SSL และการช่วยเหลือดูแลลูกค้า จริงอยู่คุณสามารถโต้แย้งได้ว่าฟังก์ชันเครื่องมือสร้างเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ทำให้ราคาสูงขึ้น แต่นั่นถือเป็นราคาที่สูงมากสำหรับการใช้เครื่องมือปรับแต่งแบบลากและวางสำหรับการใช้งานส่วนตัว

 

ฟีเจอร์ที่ดีกว่าของ Squarespace จำนวนมากเหลือเกินที่ไม่ได้รวมอยู่ในแพ็กเกจส่วนบุคคลซึ่งทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้มค่า ทั้งนี้ โฆษณา Facebook การเชื่อมต่อ Instagram การใช้ข้อความป๊อปอัป – ทั้งหมดนี้คุณต้องใช้แผนธุรกิจเป็นอย่างน้อยหรือใช้ตัวเลือกร้านค้าออนไลน์อันใดอันหนึ่ง ซี่งสนนราคาตั้งแต่ 558 บาทไปจนถึง 1,240 บาทต่อเดือน (ราคาเฉลี่ยสำหรับการสมัครสมาชิกรายปีที่ชำระล่วงหน้า)

 

 

บทสรุป: Squarespace น่าซื้อหรือไม่

 

พูดตามตรงนะครับ ผมรู้สึกว่าจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน Squarespace ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ในช่วงต้นของรีวิวนี้แล้วว่า อาจจะเป็นการดีที่สุดที่เจ้าของเว็บไซต์ขนาดเล็กจะไปดูตัวเลือกอื่นเนื่องจากคุณจะได้ตัวเลือกราคาที่ดีกว่าจากที่อื่น

 

แต่ถ้าพูดถึงธุรกิจล่ะก็ คุณย่อมไม่อยากจะเสี่ยงกับอะไรที่ยาก จริงอยู่ที่ค่ายนี้ออกจะราคาแพงแต่การใช้งานไม่ยุ่งยากชวนปวดหัวและบริการช่วยเหลือดูแลลูกค้าอย่างดี

 

ความโดดเด่นอย่างแท้จริงของ Squarespace คือ มีตัวเลือกการใช้งานที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสำหรับบริการต่าง ๆ ของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ แค่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อการทำธุรกรรมกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซก็ถือว่าดึงดูดใจมากแล้วละครับและหาแบบนี้ไม่ได้ง่าย ๆ จากที่อื่น แต่บริการนี้อาจจะไม่ช่วยอะไรมากนักสำหรับธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็กที่อยู่ในสภาพหืดขึ้นคอและต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดแพราะค่าบริการรายเดือนของค่ายนี้สูงกว่าหลายอีกหลาย ๆ ค่าย

 

ฟีเจอร์หลัก

  • ✓ เทมเพลตที่เป็นมิตรกับอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • ✓ ความยืดหยุ่นขององค์ประกอบ
  • ✓ ความช่วยเหลือและการสนับสนุนที่ครอบคลุม
  • ✓ วิดเจ็ตส่วนเสริมที่น่าใช้
  • ✓ รองรับแชทสด!
  • ✓ ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซมากมายมหาศาล

แนะนำสำหรับ

  • • เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก
  • • เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทุกประเภท


 

เริ่มต้นวันนี้ที่ SQUARESPACE

* ทดลองใช้ฟรี 14 วัน แพ็กเกจแบบชำระเงินเริ่มต้นที่ 372 บาท/เดือน
** แบนด์วิธและพื้นที่เก็บข้อมูลไม่จำกัด

 

Squarespace

เทมเพลตฝีมือนักออกแบบ

60 ++

ความเร็วไซต์

ฟีเจอร์เด่น

ปรับแต่งให้ใช้กับมือถือได้ รองรับงานด้านอีคอมเมิร์ซ สลับธีมได้

ดูรายการฟีเจอร์ทั้งหมด

ราคาเริ่มต้นที่

372 บาท*

ต่อเดือน

เข้าสู่เว็บไซต์ SQUARESPACE

  • • อนุญาตให้นำเข้า/ส่งออกข้อมูล
  • • มีเทมเพลตระดับคว้ารางวัล

การเปิดเผยโฆษณา