การเขียนเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ของคุณจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องง่ายมาก
มันง่ายเหลือเกิน
อันที่จริง ใครก็สามารถทำได้
แต่ถ้าคุณต้องการเขียนเนื้อหาที่น่าดึงดูดและทำให้ผู้อ่านติดตาม คุณต้องเขียนคำพาดหัวเนื้อหาในเว็บด้วยวิธีที่น่าสนใจและตอบโจทย์สิ่งที่ผู้อ่านมองหา ซึ่งนั่นเป็นทักษะอีกขั้นที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
เคล็ดลับการเขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพt
ฝากเอาไปคิด
คนที่ท่องอินเทอร์เน็ตมักจะมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการมองหาอะไร
หากคำพาดหัวของคุณไม่สามารถที่จะดึงดูดความสนใจในช่วง 2 วินาทีแรกได้ หยาดเหงื่อแรงกายซึ่งอาจจะรวมถึงน้ำตาทุกหยดที่คุณทุ่มเทให้กับงานเขียนของคุณจะถูกเมินทันที
ทีมงานของเราเป็นกลุ่มคนที่ชอบการแบ่งปันและต้องการช่วยผู้อ่านของเราอย่างแท้จริง เราจึงมีคำแนะนำที่ชัดเจนและเป็นแนวทางเดียวที่คุณจำเป็นต้องอ่านเพื่อใช้ในการปรับปรุงการเขียนเนื้อหาเว็บของคุณ
แต่ก่อนอื่น มาลองช่วยกันคิดว่าเนื้อหาเว็บไซต์ที่ดีจริง ๆ คืออะไรกันแน่ และทำไมการเขียนเนื้อหาให้ดึงดูดและตรึงคนอ่านไว้ได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
จริง ๆ แล้ว การเขียนเนื้อหาเว็บไซต์ที่ดีนั้นตรงไปตรงมามาก ไม่มีอะไรอ้อมค้อมเลยครับ นั่นคือ
หลักใหญ่ใจความของการเขียนเนื้อหาเว็บไซต์ให้เจ๋งก็คือ เขียนยังไงให้เนื้อหาของคุณปรากฏขึ้นมาบนหน้าแรกของการแสดงผลเวลาที่คนค้นหาผ่าน Google รวมถึงต้องดึงดูดสายตาผู้อ่านของคุณด้วย
เนื้อหาที่ดูดึงดูดจะช่วยให้คนอ่านอยู่ที่หน้าเว็บไซต์คุณนานขึ้นอีกหน่อยซึ่งอาจจะนำไปสู่การขายได้ในที่สุด
ผมแน่ใจว่า คุณเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนจากที่ไหนสักแห่ง แน่นอนว่าเนื้อหาเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญ ยิ่งถ้าพูดถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ด้วยแล้ว คำพูดนี้ยิ่งใช่เลย
เมื่อคนเข้ามาชมหน้าเว็บของคุณ คนเหล่านี้กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรสักอย่างที่พวกเขาต้องการ หรืออาจจะเป็นมุมมองทางความคิดที่ไม่เหมือนใครหรือความคิดเห็นที่เป็นกลางซึ่งเชื่อถือได้มากกว่า
หากคุณสามารถนำเสนอสิ่งที่คนอ่านต้องการได้ พวกเขาก็จะรู้สึกว่าได้คุณค่าจากการอ่านงานของคุณ และนั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า เนื้อหาที่มีคุณภาพ
เนื้อหาที่มีคุณภาพไม่ได้เป็นสิ่งที่ผลิตขึ้นมาแล้วจบกันไปแค่นั้นนะครับ อย่าคิดเพียงแค่ว่าจะเขียนให้เสร็จก็พอ เพราะเนื้อหาที่มีคุณภาพมันจะอยู่กับเราไปอีกนาน มันจะถูกแชร์ออกไป และที่สำคัญคือเนื้อหาที่ดีขายได้เสมอ
โดยปกติ เนื้อหาที่เขียนขึ้นมาจะอยู่ในกระแสหรือยังถือว่าใช้ได้อยู่สักพัก อาจจะหนึ่งหรือสองปีกว่าจะล้าสมัย คนอ่านจะชื่นชอบและเห็นคุณค่าของบทความที่มีคุณภาพซึ่งผ่านการศึกษาหาข้อมูลมาอย่างดี ซึ่งเนื้อหาแบบนี้จะไม่ล้าสมัยง่าย ๆ และใช้ได้อีกนานหลายปี
หรือมันอาจจะเจ๋งมากจนกลายเป็นไวรัลไปเลยก็ได้
คนยังจะเข้าชมเว็บไซต์ของคุณไปเรื่อย ๆ อีกหลายปีเพียงเพราะคนต้องการอ่านเนื้อหาที่มีคุณภาพชิ้นนั้นของคุณ
เนื้อหาเว็บไซต์แบบเจ๋ง ๆ สามารถสร้างปรากฏการณ์เหล่านี้ให้คุณได้เลย
นี่คือพลังของการตลาดเนื้อหาและหากคุณสามารถทำได้อย่างเชี่ยวชาญ คุณจะสามารถเปลี่ยนคำพูดของคุณให้กลายเป็นทองคำได้เลยทีเดียว
ตอนนี้ เรามาดูกันว่าคุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้เนื้อหามีคุณภาพ
หากคุณต้องการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คุณจะต้องเข้าใจกระบวนการซื้อของลูกค้าเสียก่อน อย่ากังวลครับเพราะมันไม่ได้ยากขนาดนั้น
ลองสมมติว่าคุณเป็นเจ้าของร้านกีตาร์ออนไลน์ และคุณต้องการสร้างเนื้อหาที่โน้มน้าวผู้อ่าน/ลูกค้าของคุณให้มาถึงจุดที่คุณจะขายของได้
เราจะเขียนบทความอะไรออกมาได้บ้าง
เราจะใช้กระบวนการซื้อของลูกค้าให้เป็นประโยชน์กับเราได้อย่างไร
เราสามารถแบ่งขั้นตอนต่าง ๆ ออกเป็น 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ตามนี้ครับ
ทุกบทความที่คุณเขียนต้องตอบโจทย์ตามกระบวนการทั้งหมดนี้ของลูกค้า และแต่ละบทความจะต้องโน้มน้าวให้ลูกค้าเข้าสู่กระบวนการขั้นต่อไปจนกว่าเขา/เธอจะถึงจุดที่ทำธุรกรรมซื้อขายจนเสร็จสมบูรณ์
ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
ใช่แล้ว
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่ากระบวนการซื้อของลูกค้าคืออะไร ไปต่อกันที่…
แน่นอนว่า การเขียนให้เนื้อหาครอบคลุมกระบวนการซื้อ ทั้งหมด ของลูกค้าในบทความเดียวเป็นเรื่องที่เจ๋งมาก แต่มันเป็นไปได้ยากเพราะผู้อ่านแต่ละคนที่อ่านเนื้อหาของคุณไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกันของกระบวนการซื้อ
สิ่งที่เราทำได้คือ แบ่งบทความออกเป็นบทความเล็ก ๆ โดยให้เนื้อหาตอบโจทย์ส่วนต่าง ๆ ของกระบวนการซื้อของลูกค้า ฉะนั้น ผู้อ่านที่อยู่กันคนละจุดของกระบวนการซื้อก็จะรู้สึกว่า คุณมีบทความที่ตอบโจทย์ความต้องการเมื่อพวกเขาบังเอิญมาพบกับเว็บไซต์ของคุณ
หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อนำบทความ ทั้งหมด ของคุณมารวมกัน ก็จะได้เนื้อหาที่ครอบคลุมกระบวนการซื้อของลูกค้าทั้งหมด (ฉะนั้น คุณจะมีอะไรให้ทุกคนได้อ่าน) อย่างไรก็ตาม แต่ละบทความควรจะแยกออกจากกันได้ตามประเภทเนื้อหาที่แตกต่างกันเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้มากขึ้น
เอาล่ะ ตอนนี้คุณรู้แล้วว่ากระบวนการซื้อของลูกค้าคืออะไร และคุณรู้ว่าคุณต้องครอบคลุมกระบวนการซื้อทั้งหมดของลูกค้าด้วยการแยกบทความออกเป็นประเภท แต่คุณจะใช้หัวข้อเรื่องประมาณไหนดีล่ะ
ลองใช้กีตาร์เป็นตัวอย่างอีกครั้งครับ
ในขั้นนี้ เรารู้ว่าคนที่ค้นหาเว็บไซต์ของคุณเพิ่งเริ่มจะสนใจในกีตาร์ คุณจะต้องเขียนเรื่องราวในลักษณะกว้าง ๆแต่มีความเกี่ยวข้องพอที่จะดึงดูดสายตาผู้อ่านได้ คุณจะเขียนอะไรได้บ้างเพื่อให้เตะตาผู้อ่านจนต้องตั้งใจอ่านบทความของคุณให้จบ
ณ จุดนี้ ผู้อ่านกำลังค้นหากีตาร์อยู่แล้ว เขากำลังเปรียบเทียบราคา คุณสมบัติ โทนและเสียง เขาอยากได้ข้อมูลและมองหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม
คุณจะทำอะไรเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้บ้าง
ถึงตอนนี้ ผู้อ่านของคุณพร้อมแล้วที่จะซื้อ พวกเขาพอจะมีตัวเลขในใจแล้วว่าพร้อมจะจ่ายในราคาประมาณเท่าไหร่ เพียงแต่ไม่รู้จะซื้อกีตาร์ยี่ห้อไหนดี ส่วนใหญ่อาจจะมีไอเดียอยู่แล้ว แต่กำลังมองหาความมั่นใจ
บทความของคุณจะต้องมุ่งเน้นไปในทางให้เกิดการซื้อขายมากขึ้น ผู้อ่านต้องการสิ่งที่ทำให้กล้าตัดสินใจซึ่งก็คือข้อมูลที่สร้างความมั่นใจให้พวกเขาว่าพวกเขากำลังจะเลือกสิ่งที่ใช่
ฉะนั้น ให้พวกเขาได้อ่านสิ่งที่อยากจะอ่าน !
หากตอนนี้คุณยังไม่ทราบล่ะก็ ผมจะบอกว่า คำสำคัญที่คุณใช้ในเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณจะเป็นตัวกำหนดความเกี่ยวข้องของบทความของคุณในสายตาของ Google ผู้ยิ่งใหญ่
นี่หมายความว่าคุณต้องเลือกคำสำคัญของคุณ ใช้ให้ถูกต้อง แล้วก็คอยดูเมื่อเว็บไซต์ของคุณปรากฏในหน้าแรกของผลการค้นหาของ Google
จริง ๆ แล้วมันไม่ยากเกินไปที่จะทำ
คุณต้องเริ่มต้นด้วยการหาทางยืนยันว่ามีคนต้องการอ่านหัวข้อที่คุณตัดสินใจจะเขียนหรือไม่ คุณสามารถใช้เครื่องมือเช่น SEMRush, Google trends หรือ KeywordTool.io
มีเครื่องมือช่วยหาคำสำคัญอื่น ๆ อีกมากมายที่ให้บริการฟรี บางอันคุณอาจจะต้องจ่ายเงินแต่มันก็คุ้มค่าเงินมาก
ผมลองค้นหาอย่างเร็ว ๆ ก็เจอเครื่องมือฟรีด้วย ดังนั้น คุณไม่มีข้อแก้ตัวที่จะไม่ทำอะไรเพื่อที่จะค้นหาคำสำคัญ
เมื่อคุณยืนยันคำสำคัญได้จากการค้นคว้าของคุณแล้ว คุณจะต้องจำกัดการเลือกคำสำคัญให้แคบลงเหลือ 1 หรือ 2 คำสำคัญสำหรับแต่ละบทความ สิ่งนี้จะช่วยการเขียนของคุณ
หากคุณพบว่าหัวข้อของคุณไม่มีใครต้องการอ่าน สิ่งที่คุณต้องทำคือปรับหัวข้อเล็กน้อยเพื่อตอบสนองสิ่งที่ผู้คนกำลังค้นหา
สำหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหาคำสำคัญ เชิญคลิก ที่นี่ เพื่ออ่านบทความที่เขียนอย่างดีโดย Tim Soulo ซึ่งเป็นเพื่อนของเรา
ส่วนนี้ค่อนข้างจะยุ่งยาก
ใน การศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับบทความของ Wikipedia ระบุว่า การเพิ่มจำนวนคำในบทความจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น แต่จากประสบการณ์ของพวกเรา ผู้อ่านจะหมดความสนใจอย่างรวดเร็ว (และอาจจะไม่ต้องการอ่าน) หากบทความยาวเกินไป
แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าเนื้อหามีความน่าสนใจและทำให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมได้ ผู้อ่านก็ไม่น่าจะหนีไปไหนและจะอ่านบทความของคุณต่อไป
อันที่จริง มีเพียง 16% ของคนที่รู้สึกสะดุดตากับชิ้นงานของคุณที่ยังคงจะอ่านต่อไปและอ่านทุกอย่างจนจบ แต่คนเหล่านั้นคือผู้ที่กำลังมองหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริง ๆ ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณดึงดูดพวกเขาได้!
สิ่งที่คุณต้องทำคือ การค้นคว้าหัวข้อของคุณอย่างละเอียดเพื่อให้สิ่งที่คุณเขียนจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของคุณ หลังจากนั้นก็ลงมือเขียนซึ่งเนื้อหาบทความในเว็บไซต์ควรจะประกอบด้วยจำนวนคำ 1,500 – 2,000 คำ จำนวนคำประมาณนี้ถือว่ากำลังดี
เมื่อผู้อ่านของคุณพบว่า บทความของคุณมีประโยชน์พวกเขาจะใช้เวลามากขึ้นในเว็บไซต์ของคุณโดยพยายามทำความเข้าใจและแยกแยะข้อมูลที่คุณแชร์ให้กับพวกเขา
สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมและช่วยให้เนื้อหาเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นใน Google ซึ่งทำให้มีการจัดอันดับการค้นหาที่ดีขึ้น!
เรามีหลายอย่างที่จะต้องพูดถึงเพื่อให้ครอบคลุมหัวข้อนี้ หากคุณอยากจะลุกไปชงกาแฟมานั่งจิบไปด้วยสักถ้วย ก็เชิญเลยนะครับ การเขียนเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ออกจะซับซ้อนสักหน่อย ทั้งนี้
คุณต้องเขียนเนื้อหาให้ดูยาวเพื่อให้ Google ยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าควรแก่การอ่าน แต่อีกด้านคุณก็ต้องแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ และทำให้มันดึงดูดเพื่อให้ผู้อ่านของคุณซึ่งเป็นคนชื่นชอบและอ่านต่อไปเรื่อย ๆ จนจบ
มันจะต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อสร้างความคุ้นเคยในการเขียนลักษณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเขียนสำหรับสื่อประเภทอื่นมาก่อน แต่จำไว้ว่าคุณไม่ได้เขียนวรรณกรรม ในโลกออนไลน์ ผู้อ่านไม่มีความอดทนและมีสมาธิสนใจกับสิ่งต่าง ๆ เท่ากับเด็กอายุ 12 ขวบ
ต่อไปนี้คือแนวปฏิบัติที่ดีที่ควรยึดถือเมื่อเขียนบทความสำหรับเว็บไซต์
ยกตัวอย่างเช่น
เห็นความแตกต่างไหมครับ
ระหว่างค้นคว้า ลองอ่านบทความนี้เพื่อหาวิธีสร้างเนื้อหาที่เพิ่มปริมาณผู้เข้าชม!
เคล็ดลับมืออาชีพ – ใช้เครื่องมืออย่าง SEMRush เพื่อดูว่าคู่แข่งของคุณใช้คำค้นหาใด!
มันเป็นจริยธรรมทางอินเทอร์เน็ตที่ดี นอกจากนี้ยังช่วยให้บทความของคุณดูแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือซึ่งหมายถึงการจัดอันดับที่ดีขึ้น!
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องพูดถึงเมื่อว่ากันด้วยเรื่องเขียนเนื้อหาเว็บไซต์ ซึ่งไม่มีทางจะพูดได้หมดในบทความเดียว เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ครอบคลุมเคล็ดลับและแนวทางปฏิบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับการเขียนเนื้อหาเว็บไซต์
โปรดจำไว้ว่าการค้นคว้าคือกุญแจไปสู่บทความที่ประสบความสำเร็จ!
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนเนื้อหาเว็บไซต์และเคล็ดลับการเขียน อย่าลืมกลับไปอ่านลิงก์ทั้งหมดที่เราใส่ไว้ในบทความของเรา เรามีเนื้อหาทั้งหมดที่จะช่วยคุณได้!
เอาละครับ เรามาถึงบรรทัดสุดท้ายของบทความนี้กันแล้ว เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณได้ บอกให้เรารู้บ้างนะครับว่าคุณคิดยังไงกับบทความของเรา!
แต่จะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเขียนเนื้อหาเว็บไซต์ อย่าลังเลที่จะแบ่งปันความรู้กันนะครับ!!