หากคุณได้อ่านบทความเกริ่นนำของผมเกี่ยวกับ เครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล (VPN) ตอนนี้คุณอาจจะรู้ว่า หน้าที่หลัก ๆ ของมันไม่ซับซ้อนอะไรเลย
หน้าที่ของ VPN คือ สร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ของคุณและข้อมูลที่คุณพยายามเข้าถึงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในขณะเดียวกัน VPN ก็ต้องรักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วยการเข้ารหัส
ฟังดูง่ายก็จริงแต่การทำงานไม่ได้ง่ายอย่างนั้น แก่นสำคัญของ VPN ซึ่งได้แก่ความปลอดภัย การไม่เปิดเผยตัวตน ความเร็วและความเสถียรล้วนมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของธุรกิจนี้
ส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome แบบที่ต้องจ่ายเงิน 3 อันดับแรก
ส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome แบบฟรี 3 อันดับแรก
ข้อสรุป
ขณะที่คุณอ่านข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับ VPN พอมาถึงเรื่องของราคา ตาของคุณอาจจะถลนด้วยความตกใจเลยทีเดียว บางคนอาจจะแอบคิดว่า “แล้วถ้าฉันแค่ต้องการปกปิดตัวตนและรู้สึกปลอดภัยในขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ตล่ะ”
นี่คือสิ่งที่ทำให้ปลั๊กอินหรือส่วนขยายของเบราว์เซอร์ VPN เข้ามามีบทบาท สำหรับบทความนี้ ขอพูดเกี่ยวกับส่วนขยาย VPN สำหรับ Google Chrome
ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก Google Chrome ได้เอาชนะ Internet Explore (หรือ Edge ในปัจจุบัน) ของ Microsoft มานานแล้วและแซงหน้า Firefox ขึ้นมาเป็นเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คุณเลือกเอาเลยว่าจะเชื่อสถิติของค่ายไหนเพราะตัวเลขต่างกัน แต่โดยรวม ๆ แล้ว ทุกค่ายระบุว่า ทุกวันนี้ Google Chrome ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ระหว่าง 59.69% ถึง 66.93%
ด้วยฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักพัฒนาซอต์ฟแวร์จำนวนมากจะทุ่มเทความพยายามไปที่แพลตฟอร์มนี้ ผู้ให้บริการ VPN อันดับต้น ๆ เช่น ExpressVPN และ NordVPN มีส่วนขยาย VPN เฉพาะสำหรับ Chrome ที่ช่วยให้คุณสามารถท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยและไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
Chrome ได้เคยเปิดตัวโหมดไม่ระบุตัวตนซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดแท็บและท่องเว็บได้โดยไม่มีการบันทึกประวัติ
การเรียกดู นั่นหมายความว่าในขณะที่คุณท่องเว็บ Chrome ก็จะตามลบประวัติการเรียกดูของคุณไปด้วยก่อนจะล้างคุกกี้ทั้งหมดที่สะสมมาระหว่างที่คุณท่องเว็บเมื่อคุณปิดหน้าจอหลังท่องเว็บเสร็จ
ทั้งหมดนี้เป็นอะไรที่พื้น ๆ มากและไม่มีประสิทธิภาพ
ทำไมล่ะ ก็เพราะในช่วงของการเรียกดู ข้อมูลจะไม่ได้ถูกส่งผ่านแค่เบราว์เซอร์ของคุณ แต่มันต้องเคลื่อนผ่านเราเตอร์ของคุณ ระบบปฏิบัติการของคุณและอาจถูกบันทึกไว้ในเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม เหล่าผู้ใช้บริการสตรีมมิ่งทั้งหลายยิ่งหลีกหนีเรื่องนี้ไม่พ้น
ทั้งนี้ ที่อยู่ IP ของคุณยังคงเปิดให้คนเห็นได้อยู่ซึ่งหมายความว่าการแกะรอยกลับไปหาคุณย่อมทำได้เสมอ
ส่วนขยาย VPN มีความคล้ายคลึงกับแอป VPN จริง ๆ หลายอย่าง อันที่จริง บางอันเหมือนกันเสียจนดูเหมือน ให้ฟีเจอร์เดียวกับแอป VPN เลย ทั้งนี้ ส่วนขยาย VPN ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้คุณสะดวกสบายมากขึ้นและท่องเว็บได้ในแบบที่ต้องการมากขึ้นด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องรู้คือ ส่วนขยาย VPN เกือบทั้งหมดนั้นทำหน้าที่เป็นเพียงตัวแทนแอปจริง ซึ่งหมายความว่าส่วนขยายเหล่านี้จะมีผลกับการรับส่งข้อมูลผ่านเบราว์เซอร์เท่านั้น แต่มีกรณียกเว้นเพียงสองอย่างคือ อุปกรณ์ที่ทำงานบน Chromes OS หรือส่วนขยายที่เชื่อมต่อกับแอปในเครื่องของผู้ใช้ (Native Messaging)
แต่ก็พอที่จะพูดได้ว่า ข้อยกเว้นเหล่านั้นแทบจะหาไม่ได้ ฉะนั้น ขอให้รับฟังเกี่ยวกับพลังของ VPNs ที่อิงเบราว์เซอร์แบบฟังหูไว้หูด้วยจะดีที่สุด
แม้ว่าส่วนขยายของเบราว์เซอร์จะมีประโยชน์คล้ายกับซอฟต์แวร์ VPN แบบเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังมีความต่างหลัก ๆ ดังนั้น ส่วนขยาย VPN จึงมักจะถูกเรียกว่า พร็อกซี
ประโยชน์ที่คล้ายกับ VPN ของพร็อกซี่จะใช้ได้กับเบราว์เซอร์นั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ Chrome ฉะนั้น
แอปอื่น ๆ บนคอมพิวเตอร์ของคุณซึ่งใช้เครือข่ายเดียวกันจะมีการรับส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเช่นเดิม
กรณีเช่นนี้รวมไปถึงการใช้เบราว์เซอร์อื่น ๆ ที่คุณอาจจะใช้เป็นบางครั้งด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณมีส่วนขยายพร็อกซีสำหรับ Chrome และไปเรียกใช้ Microsoft Edge การรับส่งข้อมูลบน Edge จะไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยจากส่วนขยาย Chrome ของคุณ
ขณะที่ แอป VPN เต็มรูปแบบ เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลที่เกิดขึ้นในระบบทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าแอป VPN ของคุณจะปกป้องการรับส่งข้อมูลจากทุกส่วนของระบบของคุณ ไม่ว่าจะเบราว์เซอร์ แอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือแม้แต่ระบบปฏิบัติการเอง
ผมขอเริ่มต้นด้วยการพูดอย่างกว้าง ๆ ว่า พร็อกซี่ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ (ไม่ใช่แค่พร็อกซี VPN) ใช้โปรโตคอล SOCKS และ HTTP/HTTPS เท่านั้น
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับส่วนขยายของเบราว์เซอร์ในแง่ที่ว่า เมื่อใช้ SOCKS และ HTTP จะไม่มีการเข้ารหัสใด ๆ ทั้งสิ้นแต่ถ้าคุณใช้ส่วนขยาย VPN ที่ใช้โปรโตคอล HTTPS นั่นก็เป็นการเข้ารหัสระดับ SSL โดยทั่วไป
นี่เป็นสิ่งที่ควรพึงระลึกไว้เสมอสำหรับพร็อกซี VPN ฟรี 100% ผมสังเกตว่า แม้แต่บริการส่วนขยาย VPN ที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ก็ไม่ใช่ว่าเซิร์ฟเวอร์ของทุกประเทศจะใช้โปรโตคอล HTTPS
น่าเสียดายที่เรื่องนี้เป็นเหมือนกันหมดทุกค่าย เว้นแต่คุณจะใช้พร็อกซีที่เป็นส่วนขยายของผู้ให้บริการ VPN เต็มรูปแบบ เช่น ExpressVPN หรือ TorGuard ผู้ใช้ส่วนขยาย VPN ฟรีส่วนใหญ่ต้องอาศัยการอ่านจากหน้าคำถามที่พบบ่อย การช่วยเหลือกันเองภายในชุมชนผู้ใช้หรือการช่วยเหลือผ่านทางอีเมล (ถ้าคุณโชคดี)
คุณต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะคลำทางแก้ปัญหาต่าง ๆ เอง
แม้ว่าพร็อกซี่จะมีความแตกต่างจากบริการแบบเต็มรูปแบบ แต่มันก็มีลักษณะการใช้เฉพาะในบางสถานการณ์
แม้ว่าส่วนขยายของ VPN สำหรับ Chrome เป็นพร็อกซีเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมรู้สึกว่า หากพร็อกซี่เหล่านี้ยังยึดตามหลักการที่เป็นหัวใจของ VPN ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขอย้ำว่า ส่วนใหญ่นะครับ หลักการสำคัญยังคงเหมือนเดิมคือ ความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัยและความเร็ว
หากคุณไม่มั่นใจว่า คุณจะเลือกถูกและส่วนขยาย VPN รายเก่า ๆ จะเชื่อถือได้ ผมขอแชร์สิ่งที่ได้เจอมากับตัวเองเมื่อวันก่อน นั่นคือ Hoxx VPN หรือผู้ให้บริการที่ดูทะแม่ง ๆ นั่นเอง ขณะที่ผมอ่านเอกสารของค่ายนี้ ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ใครหน้าไหนจะลงทะเบียนใช้บริการ ต่อให้เป็นบัญชีแบบใช้ฟรีก็ตาม
ผู้ให้บริการ VPN รายนี้เก็บรวบรวมข้อมูลล็อกอิน บล็อกพอร์ต SMTP รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลอุปกรณ์ใช้เทคโนโลยีการติดตามแกะรอย พร้อมกับระบุว่าผู้ใช้ต้องยินยอมให้แชร์ข้อมูลกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหรือรัฐบาล….และอะไรอีกยาวเหยียด
ถ้าหากคุณรู้สึกตกใจเหมือนผมล่ะก็ แสดงว่าคุณเข้าใจแล้วว่า การเลือกบริการ VPN สำคัญแค่ไหน ฉะนั้น เรามาดูรายชื่อของส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome ชั้นนำกันดีกว่า
แม้ผมจะบอกว่าต้องจ่ายเงิน แต่ผมต้องบอกเหมือนกันว่า ส่วนขยายเบราว์เซอร์ VPN ส่วนใหญ่ที่คุณจะเจอบนออนไลน์นั้นสามารถติดตั้งได้ฟรี อย่างไรก็ตาม บางค่ายจะต้องให้คุณจ่ายเงินค่าสมัครใช้บริการก่อนที่จะยอมให้ใช้ส่วนขยายเหล่านั้นได้ (ทำให้กลายเป็นส่วนขยายที่ต้องจ่ายเงินอยู่ดี) เอาล่ะครับ ไม่ต้องเสียเวลาสาธยาย อะไรกันมาก ตอนนี้มาดูรายชื่อตัวเลือกส่วนขยายแบบที่ต้องจ่ายเงิน 3 อันดับแรกที่เราขอแนะนำดีกว่า
ประสิทธิภาพโดยรวม
ดีมาก
คะแนนของเรา
ราคา
216 บาท/เดือน
ฟีเจอร์หลัก
"NordVPN มาในแพ็คเกจที่น่ารักมากและประสิทธิภาพสูงด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ VPN หลายพันเครื่องทั่วโลก"
ส่วนขยาย NordVPN สำหรับ Chrome ค่อนข้างจะแปลกเล็กน้อย จำที่ผมบอกได้ไหมว่า ExpressVPN นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการความรู้สึกว่า แค่คลิกเดียวก็ท่องอินเทอร์เน็ตได้แล้ว ส่วนขยาย NordVPN นั้นคล้ายกันแต่ไม่ทั้งหมด
อันที่จริง คุณแทบจะจัดการอะไรในแอปด้วยตัวเองได้น้อยมาก ในเรื่องของการเลือกเซิร์ฟเวอร์ อย่างเดียวที่คุณทำได้คือเลือกประเทศ ตัวอย่างเช่น จากที่พยายามเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ผมต้องลุ้นมากเลยว่าสุดท้ายแล้วจะไปเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของรัฐไหน มันน่ารำคาญอยู่บ้าง
ในขณะที่ผมเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว แต่สัญญาณแย่มากจนการทดสอบความเร็วไม่สามารถระบุเซิร์ฟเวอร์ที่ชัดเจนให้ผมได้ การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในมาเลเซียก็ช้าจนน่าตกใจและในที่สุดผมก็ต้องไปจบที่เซิร์ฟเวอร์ใน สิงคโปร์ ซึ่งให้ค่าความเร็วที่น่าพอใจมาก
ข้อดี
ข้อเสีย
ประสิทธิภาพโดยรวม
ดีมาก
คะแนนของเรา
ราคา
258 บาท/เดือน
ฟีเจอร์หลัก
การผสมผสานอย่างลงตัวของการรักษาความปลอดภัย การปกปิดตัวตนและประสิทธิภาพในทุกแพลตฟอร์มที่สำคัญ"
ส่วนขยาย ExpressVPN สำหรับ Chrome นั้นไม่ยุ่งยากและใช้งานง่ายเหมือนกับตัวแอปพลิเคชั่น คุณสามารถปรับการตั้งค่าได้ เช่น การอำพรางตำแหน่งที่ตั้งของคุณและการบล็อก WebRTC และสำหรับผู้ที่ชอบท่องเว็บได้ภายในคลิกเดียวโดยไม่ต้องทำอะไรมาก ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับคุณมาก
คุณสามารถเลือกตั้งค่าแอป Windows ของคุณในส่วนขยายก็ได้ แต่การคลิกเปิดแอป Windows และเปลี่ยนการตั้งค่าในนั้นไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ความเร็วในส่วนขยาย อยู่ในระดับพอใช้ถึงปานกลางหรืออาจจะแย่กว่านั้นได้
แม้ผมจะบ่นงึมงำรำคาญอยู่บ้างเกี่ยวกับส่วนขยายที่เปิดแอปเพื่อเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า แต่สิ่งนี้ก็ช่วยเพิ่มพลังให้กับส่วนขยาย มันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กินทรัพยากรของระบบน้อยกว่าจริง ๆ
โดยรวมแล้ว ผมชอบส่วนขยายของ ExpressVPN เพราะบริษัทนี้ให้บริการ VPN แบบเต็มรูปแบบอยู่แล้ว ค่ายนี้สามารถเปิดโลกใบใหม่ให้กับผู้ใช้ผ่านเครือข่ายพิเศษที่มีเซิร์ฟเวอร์กว่า 2,000 แห่งทั่วโลกและได้รับการจัดอันดับสูงสุดในการทดสอบ VPN ของเรา
ข้อดี
ข้อเสีย
ประสิทธิภาพโดยรวม
ดีมาก
คะแนนของเรา
ราคา
62 บาท/เดือน
ฟีเจอร์หลัก
"Surfshark ไม่ซับซ้อน ประสิทธิภาพไม่ตก เป็นคู่แข่งตัวจริงที่กำลังมาแรงในวงการ"
ส่วนขยาย Surfshark สำหรับ Chrome น่าใช้เหมือนกับ Windows และแอปมือถือของทางค่าย เร็วและตอบสนองต่อคำสั่งได้ดีมาก การเชื่อมต่อทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับการตั้งค่าหรืออะไรอย่างอื่นเลย
โดยปกติ เมื่อแกะออกจากกล่องก็ใช้งานได้เลย สิ่งเดียวที่คุณต้องทำคือ คลิกเพื่อเปิดใช้งานและเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการเชื่อมต่อ การทดสอบความเร็วแสดงให้เห็นว่ามันทำงานได้ดีเหมือนกับแอปพลิเคชั่น Windows เต็มรูปแบบ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยชอบส่วนขยายของ Chrome เลย ผมรู้สึกว่า มันเพิ่มภาระให้กับหน่วยความจำที่ทำงานหนักอยู่แล้ว แต่ส่วนขยายของ Surfshark สำหรับ Chrome กลับทำให้รู้สึกว่ามันใช่เลย แน่นอน คุณจะต้องมีบัญชีอยู่แล้วถึงใช้มันได้
ข้อดี
ข้อเสีย
ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับผู้ให้บริการ VPN และผมจะพูดซ้ำอีกครั้งที่นี่ตอนนี้ว่า อย่าหลงกลกับอะไรที่ติดป้ายว่า “ฟรี” เพราะบริษัทที่ให้บริการฟรีจะต้องคิดหาทางทำเงินไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หากคุณรีบคว้าของ “ฟรี” คุณมักจะต้องแลกกับความเสี่ยงอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของข้อมูลส่วนตัวหรือการสูญเสียการควบคุมข้อมูลของคุณ บริการบางค่ายถึงกับหันไปใช้มัลแวร์หรือส่งคุณไปเว็บไซต์อื่นเพื่อหารายได้จากคุณ ลองพิจารณาคำเตือนนี้ดูนะครับ
ประสิทธิภาพโดยรวม
พอใช้
คะแนนของเรา
ราคา
ฟรี
ฟีเจอร์หลัก
"TunnelBear เป็นของ McAfee ซึ่งรับรองมาตรฐานความปลอดภัยได้ในตัวมันเอง
คุณจะรู้สึกปลอดภัยขณะที่ท่องเว็บโดยอำพรางตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
"
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า ส่วนขยาย VPN ของ TunnelBear มีขั้นตอนการสมัครที่ยอดเยี่ยม เมื่อคุณติดตั้งส่วนขยายแล้ว คุณจะเข้าสู่หน้าลงชื่อเข้าใช้ที่คุณจะต้องลงทะเบียนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
สิ่งที่เตะตาคือ บัญชีฟรีจะให้คุณรับส่งข้อมูลแบบที่มีการเข้ารหัสเพียง 500MB ต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งไม่มีทางจะพอเลยสำหรับคนส่วนใหญ่ เห็นได้ชัดว่าความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันมาก ขณะที่ความเร็วเซิร์ฟเวอร์สหรัฐค่อนข้างช้า เซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์เร็วแบบสายฟ้าแล่บ!
ข้อดี
ข้อเสีย
ประสิทธิภาพโดยรวม
ดี
คะแนนของเรา
ราคา
ฟรี
ฟีเจอร์หลัก
"PureVPN ให้บริการในหลายแพลตฟอร์มพร้อมปลั๊กอิน Chrome ของตัวเอง
คุณจะพบกับความสะดวกสบายขั้นสูงสุด"
จริง ๆ แล้ว PureVPN เป็นผู้ให้บริการ VPN เต็มรูปแบบซึ่งหมายความว่ามีแอปที่ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองและยังมีส่วนขยาย PureVPN สำหรับ Chrome ฟรี ในความคิดของผม ส่วนขยายสำหรับ Chrome ฟรีนี้ก็ดีเท่าที่ของฟรีจะให้ได้
ประการแรก มันให้บริการไม่เปิดเผยตัวตนขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ใช้โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย สิ่งที่คุณต้องทำก็คือลงทะเบียนเปิดบัญชี อย่างไรก็ตาม บริการนี้มีข้อจำกัดบางประการที่ผมเห็นว่ายุติธรรมกับราคาที่คุณจ่าย (ซึ่งก็คือฟรี)
คุณจะไม่สามารถเลือกประเทศที่จะเชื่อมต่อได้ยกเว้น โรมาเนีย ออสเตรเลียและสวีเดน แอปที่จำกัดให้ใช้ได้เฉพาะคนในภูมิภาคที่กำหนด เช่น Netflix US, Hulu US หรือ iPlayer ของ BBC ส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้จนกว่าคุณจะสมัครใช้บัญชีพรีเมี่ยม
แต่อีกด้าน การท่องเว็บขั้นพื้นฐานทำงานได้ดีและมีการป้องกันการรั่วไหลของ WebRTC อันที่จริง ผมพบว่า การเรียกดูผ่านส่วนขยาย Chrome ของ PureVPN เร็วกว่าปกติทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบริการอื่น ๆ ที่ฟรีเหมือนกัน
ข้อดี
ข้อเสีย
ประสิทธิภาพโดยรวม
พอใช้
คะแนนของเรา
ราคา
ฟรี
ฟีเจอร์หลัก
"ใช้ ZenMate ร่วมกับปลั๊กอิน Chrome ยี่ห้อเดียวกัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เพลิดเพลินกับการเข้ารหัสระดับสูงสุด"
ZenMate ทำงานได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome ตัวอื่นที่มีอยู่ ความเร็วดี มีตัวเลือกมากมาย รวมถึงสิ่งที่ปกติแล้วคุณจะไม่ได้จากส่วนขยายแบบฟรี อย่างไรก็ตาม คุณใช้ฟรีได้แค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
คุณจะเห็นได้ว่า ZenMate ใช้หลักการ “ล่อใจให้คนเข้ามา” ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณสมัครใช้งาน คุณจะได้ใช้บริการแบบพรีเมี่ยมโดยอัตโนมัติทันที หลังจากหนึ่งสัปดาห์ของการลองใช้ คุณจะต้องกลับไปใช้โมเดลฟรี
มันไม่ได้เลวร้ายแต่มันน่ารำคาญ แต่ไม่ว่าจะยังไง การเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์เรียกว่าแข็งแกร่งและเสถียรพร้อมด้วยความเร็วแรง ดังนั้น ผมจึงไม่มีอะไรจะบ่นมาก
ข้อดี
ข้อเสีย
สุดท้ายนี้ ผมรู้สึกว่า จะต้องเน้นอีกครั้งถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างแอป VPN และส่วนขยาย VPN สำหรับ Chrome (หรือจริง ๆ แล้วก็รวมไปถึงส่วนขยาย VPN สำหรับเบราว์เซอร์อื่น ๆ ด้วย) แอป VPN รักษาความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลเครือข่ายทั้งหมดจากอุปกรณ์ของคุณ แต่ส่วนขยายเบราว์เซอร์จะป้องกันการรับส่งข้อมูลที่ผ่านเบราว์เซอร์เท่านั้น
เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันรวมถึงแล็ปท็อป สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมักจะมีแอปจำนวนมากที่ถูกติดตั้งไว้โดยที่รับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายเดียวกัน ฉะนั้น การปกป้องข้อมูลเฉพาะที่รับส่งผ่านเบราว์เซอร์ของคุณจึงไม่เพียงพอ
มีสองประเด็นสำคัญที่ผมต้องการฝากให้คุณพิจารณา :
หากคุณแค่ต้องการท่องอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome อาจจะเหมาะกับคุณ อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการใช้งานส่วนขยาย VPN ที่ดีที่สุด นั่นจะมาพร้อมค่าใช้จ่ายในการสมัคร ซึ่งผมขอแนะนำให้คุณติดตั้งแอป VPN ชนิดเต็มรูปแบบไปเลยดีกว่า